HoonSmart.com>>บอร์ด AOT ประชุมเช้า บ่ายผู้บริหารให้ข้อมูลนักวิเคราะห์-ผู้สื่อข่าว ไม่มีอะไรใหม่ ยังไม่ชัดเจนหลายประเด็น รอจ้างที่ปรึกษา 2 รายศึกษาข้อเท็จจริง คาด 60 วันจะได้ผลสรุป แก้สัญญาดิวตี้ฟรีทุกสนามบิน นัดเคลียร์คิงพาวเวอร์พรุ่งนี้ (17มิ.ย.) “สัญญาไม่เป็นธรรม”ที่ระบุในจดหมาย ยันบริษัทมีฐานะการเงินแกร่ง รายได้ส่วนใหญ่ 83% ยังเติบโต แถมจะมีพิเศษ ด้านราคาหุ้น AOT ร่วงต่อ -8.40% นักวิเคราะห์บล.บัวหลวงมองยังมีความเสี่ยง บล.กรุงศรีหั่นเป้าหุ้นเหลือ 31.25 บาท
น.ส. ปวีณา จริยฐิติพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ (รักษาการ) บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯวันที่ 16 มิ.ย.2568ว่า ที่ประชุมได้เร่งรัดให้ AOT ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน และจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ทั้งนี้ AOT จะจ้างที่ปรึกษา 2 ราย เป็นบุคคลที่สาม (3rd party) เพื่อศึกษาประเด็นด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน การบริหารธุรกิจ และวิเคราะห์ข้อจำกัดของ สัญญาเดิม รวมถึงเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน และให้เสนอคณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาต่อไป
ส่วนกรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี (KPD) ส่งจดหมายถึง AOT 3 ฉบับ เพื่อยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรีที่สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ สนามบินหาดใหญ่ นั้น ในรายละเอียดมีการระบุคำว่า”สัญญาไม่เป็นธรรม” และ AOT ไม่มีการนำบริบทอื่นๆมาพิจารณา เช่นเศรษฐกิจโลก จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปนั้น ในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) จะมีการหารือร่วมกับ KPD อย่างเป็นทางการ แทนที่จะติดตามผ่านหนังสือมาโดยตลอด เพื่อต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย
ปัจจุบัน KPD ยังคงจ่ายค่าผลตอบแทนตามปกติ มีการค้างชำระหรือไม่ จำไม่ได้ และไม่มีการเปลี่ยนสัญญาการจ่ายตามสัดส่วนรายได้ 20% ซึ่งหากมีการค้างชำระ ก็จะยังไม่เกินวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) ที่ KPD วางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญา ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
น.ส. ปวีณา ยังคงยืนยันว่า AOT มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแรง รายได้ยังคงเติบโต เช่น ธุรกิจคาร์โก้เติบโตทั่วโลก ของ AOT ปีก่อนมีจำนวน 1.3 ล้านตัน สำหรับปีนี้ผ่านมาเพียง 7 เดือนก็มากกว่าแล้วเป็น 1.4 ล้านตัน นอกจากนี้ยังมีแผนการหารายได้เพิ่มจากแหล่งอื่น ๆ เช่น รายได้จากค่าใช้บริการระบบไฟฟ้า 400 Hz ระบบปรับอากาศ Pre-Conditioned Air (PC Air) โครงการผู้ให้บริการลานจอด และอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 และการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ โดยรอบท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) พร้อมทั้งขอยืนยันว่าบริษัทฯยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับโครงการลงทุนในอนาคตและการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของ ทอท.
” AOT มีรายได้จากบริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีเพียง 17% จากทั้งหมด รายได้ส่วนใหญ่ 83% ยังคงเติบโต และจะมีรายได้พิเศษ ส่วนสัญญาดิวตี้ฟรีหรือการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็นไดนามิก ที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกเป็นเรื่องปกติ เช่น การเปลี่ยนหลุมจอด ทำให้ผู้โดยสารไม่เดินผ่าน ก็ปรับแก้ไขได้ตลอด ”
ส่วนคำถามว่าหาก บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีจะขอยกเลิกสัญญา จะมีการจัดประมูลใหม่ หรือหารายใหม่มาทดแทนหรือไม่ ขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้
ด้านนักวิเคราะห์บล.บัวหลวงสรุปผลประเด็นระหว่างการประชุมฯ เรื่องดิวตี้ฟรี โทนคือ ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม จึงยังมีความเสี่ยงต่อไป AOT
เมื่อเช้าวันที่ 16 มิ.ย.ก่อนทราบผลประชุมบอร์ด AOT บล.กรุงศรีออกบทวิเคราะห์ ปรับลดน้ำหนักจากซื้อเป็นเท่ากับตลาด และลดราคาเป้าหมายหุ้นปีนี้เหลือ 31.25 บาท ลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 คาดผลกระทบรายได้ 9,700 ล้านบาท กรณีรื้อสัญญาทั้งหมด
ราคาหุ้น AOT ดิ่งลงต่อ ต่ำสุดแตะ 26.75 บาท ก่อนปิดที่ 27.25 บาท ร่วงลง -2.50 บาทหรือ -8.40% มูลค่าการซื้อขาย 4,190.76 ล้านบาท
———————————————————————————————————————————————————–

