HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง รอรายละเอียดข้อตกลงสหรัฐฯ-จีน ตะวันออกกลางตึงเครียด
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลง จากการร่วงลงของหุ้นส่งออกจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น แม้มีแรงซื้อจากความหวังว่าจะมีจากการสรุปข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ใน Prime Market หุ้นที่นำการปรับตัวขึ้น ได้แก่ กลุ่มน้ำมันและถ่านหินและกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง หุ้นที่ปรับตัวลงมากที่สุดคือกลุ่มบริการ กับ กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า
เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ 144.19-21 เยน เทียบกับ 144.55-65 เยนในนิวยอร์ก และ 145.12-14 เยนในโตเกียว เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันพุธ
ณ เวลา 10.02 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 38,149.49 จุด ลดลง 271.7 จุด, -0.71%
ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับลง นักลงทุนวิเคราะห์รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว การสงบศึกการค้าที่ยังเปราะบางระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศ ว่าได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน โดยการนำเข้าสินค้าจากจีนอาจต้องเสียภาษีนำเข้า 55% อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงระมัดระวังและรอรายละเอียดที่แน่ชัดของข้อตกลง และยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดการปะทุอีกครั้งหรือไม่
มานทาส วานากาส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Westpac กล่าวว่า ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด และยังไม่ชัดเจนว่าการเจรจาดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดสองประเทศเข้าใกล้ความร่วมมือที่มีประสิทธิผลมากขึ้นหรือไม่
เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP Capital กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมีท่าทีผ่อนปรนมากขึ้นในการเจรจาด้านภาษีศุลกากร โดยกล่าวเขายินดีที่จะขยายกำหนดเวลาการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ออกไปเป็นวันที่ 8 กรกฎาคม ก่อนที่สหรัฐจะกำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ จะส่งจดหมายภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์เพื่อระบุเงื่อนไขข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศ ซึ่งอาจจะยอมรับหรือปฏิเสธก็ได้ ส่งผลให้ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ความเชื่อมั่นในการลงทุนลดลง
เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันพฤหัสบดี จากความคาดหวังที่สูงขึ้นต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังเงินเฟ้อชะลอตัว เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับอ่อนค่าที่สุดตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ที่ระดับ 98.327
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI)ของสหรัฐฯเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.5% ที่นักวิเคราะห์คาด จาก 2.3% ในเดือนเมษายน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน(Core CPI)ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.8% ต่ำกว่า 2.9% ที่นักวิเคราะห์คาด จากที่ 2.8% ในเดือนเมษายน
รายงานอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวทำให้ทรัมป์เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้ง
ค่าเงินหยวนออฟชอร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 7.1953 หยวนต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากข่าวการสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายหลังการเจรจาที่กรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์นี้
หุ้น Qantas Airways ของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 4.38% หลังจากที่บริษัทประกาศปิดสายการบินราคาประหยัด Jetstar Asia ซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์ เมื่อวันพุธ
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,401.41 จุด ลดลง 0.91 จุด, -0.03%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 24,250.34 จุด ลดลง 116.6 จุด, -0.48%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,921.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.43 จุด, +0.5%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 22,271.88 จุด ลดลง 198.22 จุด, -0.88%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 0.4 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ซื้อขายที่ 67.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 0.41 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ซื้อขายที่ 69.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

