HoonSmart.com>> NUT ปลอบนักลงทุนหุ้นต่ำจอง “ภาคิณ กิตติภานุวัฒน์” ซีอีโอ มั่นใจศักยภาพสินค้า , การเข้าถึงผู้บริโภค รวมทั้งทีมวิจัย สร้างโอกาสการเติบโต เชื่อเป็นหุ้นให้ความสุขในการลงทุน

วันนี้ (11 มิ.ย.) หุ้นบริษัท นูทริชั่น โปรเฟส (NUT) เข้าซื้อขายในตลาด mai วันแรก ราคาเสนอขายไอพีโอ 6.80 บาท เปิดที่ 6.20 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ – 8.82% และขึ้นไปสูงสุด 6.55 บาท ปิดต่ำสุด 5.20 บาท ร่วงลง 1.60 บาทหรือ -23.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 258.39 ล้านบาท
สำหรับ NUT เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบวงจร และเครื่องสำอาง ในแบรนด์ตัวเอง , รับจ้างผลิต (OEM) และ Co-Brand ผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
สัดส่วนการจำหน่ายตลาดออนไลน์ ปี 2567 ทำรายได้หลัก 69.15% , ออฟไลน์ (ร้านยา , ร้านค้าปลีก โทรทัศน์ ฯ ) 23.31% และรับจ้างผลิต 7.14%
นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NUT กล่าวว่า บริษัท ฯ มีแผนระยะสั้นและระยะยาว สร้างโอกาสการเติบโตของบริษัท ฯ ต่อยอดสินค้าใหม่ เจาะตลาดออฟไลน์-ออนไลน์ครบวงจร
บริษัท ฯ มีจุดเด่นทีมวิจัย , ศักยภาพการทำสินค้า การสื่อสารเข้าถึงมือผู้บริโภค สะท้อนกลับมาให้ผลประกอบการเติบโต ปันผลต่อเนื่อง เชื่อว่าหุ้น NUT จะเป็นหุ้นที่ให้ความสุขการลงทุน
ทั้งนี้ NUT มีจุดแข็งดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งการควบคุมกระบวนการผลิต ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่
กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement), กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care)
มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนและบริหการอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี
ปี 2568 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ และ สร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 1/2568 สัดส่วนช่องทางออนไลน์ของบริษัทเติบโตขึ้นที่ระดับ 75.54%
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำขายหุ้น NUT กล่าวว่า NUT เป็นผู้นำการผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางครบวงจร มีจุดเด่นเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด มั่นใจว่า NUT จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งในแง่ของการเติบโตและนโยบายการปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินทุนสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด
