ดาวโจนส์ปิดบวก 105 จุด หวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนคืบ

HoonSmart.com>>3 ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 105.11 จุด นักลงทุนคาดหวังผลบวกเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ลุ้นราคาผู้บริโภค อาจส่งผลต่อแนวทางของเฟดต่ออัตราดอกเบี้ย ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว  ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 10 มิ.ย. 2568 ปิดที่ 42,866.87 จุด เพิ่มขึ้น 105.11 จุด หรือ +0.25% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลลัพธ์เชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,038.81 จุด เพิ่มขึ้น 32.93 จุด, +0.55%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,714.99 จุด เพิ่มขึ้น 123.75 จุด, +0.63%

นายโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงลอนดอนว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันในข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตามฉันทามติที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันที่เจนีวา โดยคณะผู้แทนจะส่งข้อเสนอกลับไปให้ผู้นำของแต่ละฝ่ายอนุมัติ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะพยายามดำเนินการตามข้อเสนอ

นอกจากนี้นาย ลุตนิค กล่าวว่าว่า การเจรจาการค้าดำเนินไปด้วยดี และอาจต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธ ต่อมา นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเจรจาจะมีต่อไปหากมีความจำเป็น

นักลงทุนเกาะติดการหารือเพื่อหาสัญญาณของข้อตกลงที่ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ประเทศต่างๆ บังคับใช้ภาษีศุลกากรที่สูงเกินควรต่อกัน

สองประเทศตกลงกันเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะลดภาษีศุลกากรชั่วคราว ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศแผนการจัดเก็บภาษีศุลกากรในวงกว้างและสูงมากสำหรับสินค้านำเข้า

สก็อตต์ แลดเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Horizon Investments กล่าวว่า ความคาดหวังก็คือทั้งสองฝ่ายจะหาทางออกเรื่องนี้ได้ และจะไม่มีวันได้เห็นระดับภาษีตามที่ประกาศในวันที่ 2 เมษายน เพราะไม่สามารถประเมินมูลค่าตลาดได้หากมีระดับภาษีเหล่านี้ และคาดหวังให้ระดับภาษีเหล่านี้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

นอกจากนี้นักลงทุนยังรอข้อมูลราคาผู้บริโภคจากกระทรวงแรงงานในวันพุธ ซึ่งอาจแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อราคาสินค้า และอาจส่งผลต่อแนวทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ต่ออัตราดอกเบี้ย

มาร์ก มาเล็ค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Siebert Financial กล่าวว่า แม้ภาพรวมจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่ภาษีศุลกากรที่บังคับใช้ได้ก็มีอยู่ เฟดกังวลว่าผลกระทบจากเงินเฟ้อที่แท้จริงยังไม่ปรากฏให้เห็น จากการจัดเก็บภาษีศุลกากรที่ซับซ้อนซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน แต่คาดว่า รถยนต์ เสื้อผ้า และอาหาร จะเริ่มแสดงสัญญาณเริ่มต้นของเงินเฟ้อที่เกิดจากภาษีศุลกากร

ตลาดยังรอการเปิดเผยประกอบการของบริษัทต่างๆ เช่น Chewy, Oracle และ Victoria’s Secret ในวันพุธเช่นกัน
หุ้น J.M. Smucker ผู้ผลิตเนยถั่วลิสง Jif ร่วงลง 15.5% หลังจากคาดการณ์กำไรประจำปีต่ำกว่าที่ตลาดคาด

ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว ท่ามกลางการซื้อขายที่ระมัดระวังเนื่องจากนักลงทุนรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในวันที่สองที่ลอนดอน

โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าการหารือสองวันในลอนดอนระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกรายหนึ่งกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้ยุติการเจรจาโดยตรงแล้ว

ความคืบหน้าเชิงบวกในการเจรจามีแนวโน้มที่จะช่วยบรรเทาความกังวลของตลาด เนื่องจากนโยบายภาษีศุลกากรที่ไม่แน่นอนของทรัมป์และความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้สร้างผลกระทบให้กับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศแล้ว ทำลายห่วงโซ่อุปทาน และสร้างความไม่แน่อนให้กับการคาดการณ์การเติบโตของโลก

ลอร่า คูเปอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและสินเชื่อมหภาคที่ Nuveen กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าข้อตกลงที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร จนกว่าจะได้เห็นข้อตกลงการค้าที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้น ความสนใจจะอยู่ที่การสิ้นสุดของการระงับบังคับใช้ 90 วันนั้น และผลที่ตามมาหากไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น

หุ้นกลุ่มการเงิน ลดลง 1.4% นำโดยหุ้น UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ที่ร่วงเกือบ 5% หลังนักลงทุนกังวลว่าข้อเสนอจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์อาจทำให้ธนาคารต้องเพิ่มทุนสำรองอีก 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์เพิ่มขึ้น 1.2% นำโดยหุ้น Novo Nordisk ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6%

หลังจากมีรายงานจากไฟแนนเชียลไทมส์ว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ Parvus Asset Management กำลังเข้าซื้อหุ้นในบริษัท
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 553.12 จุด ลดลง 0.12 จุด, -0.022%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,853.08 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด, +0.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,804.33 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด, +0.17%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,987.56 จุด ลดลง 186.76 จุด, -0.77%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 64.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–