HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทรงตัว ดัชนีดาวโจนส์สบ 1 จุด นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” เพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง รอการเจรจาจีนและสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ปิดที่ 42,761.76 จุด ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.003% จากความหวังที่เพิ่มขึ้นว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลาย หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศรอบใหม่ในวันที่แรกจบลงด้วยแนวโน้มที่ดี
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,005.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.52 จุด, +0.09%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,591.24 จุด เพิ่มขึ้น 61.28 จุด, +0.31%
เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ และจีนได้จัดการเจรจาการค้าเมื่อวันจันทร์ที่กรุงลอนดอน เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลุตนิค และผู้แทนการค้า จามีสัน กรีเออร์ ซึ่งเป็นผู้แทนผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ
เควิน ฮัสเซตต์ เปิดเผยกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ กำลังให้จีนยืนยันว่าจะกลับมาส่งออกแร่ธาตุที่สำคัญ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ว่าได้รับรายงานที่ดีจากการหารือ
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์ดังกล่าวเปิดเผยกับ CNBC ว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปในเช้าวันอังคาร การหารือที่ลอนดอนเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์กันเป็นเวลานานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่งพุ่งสูงขึ้น โดย Qualcomm พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังจากที่ผู้ผลิตชิปประกาศว่าจะเข้าซื้อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ Alphawave ในราคา 2.4 พันล้านดอลลาร์ หุ้น Advanced Micro Devices เพิ่มขึ้น 4.8% และ Texas Instruments เพิ่มขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แลร์รี เทนทาเรลลี หัวหน้านักกลยุทธ์ทางเทคนิคของ Blue Chip Daily Trend Report กล่าวว่า นักลงทุนซื้อหุ้นขนาดใหญ่ของจีนและหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ซึ่งต่างก็ได้ประโยชน์จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
หุ้น Apple ลดลง 1.2% หลังประกาศการออกแบบระบบปฏิบัติการ iPhone ใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ในงานประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลกประจำปี 2025
ในตอนนี้ ตลาดดูเหมือนจะฟื้นตัวจากความผันผวนที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเมื่อต้นเดือนเมษายน โดยหุ้นปิดตลาดแดนบวกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากข้อมูลการจ้างงานที่สดใสช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากการปฏิรูปนโยบายของทรัมป์
ประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้คือรายงานอัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์ และรายงานเงินเฟ้อภาคค้าส่งจากดัชนีราคาผู้ผลิตที่ในวันพฤหัสบดี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังขณะที่รอผลการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ลอนดอน ท่ามกลางความหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อจะยุติลง
การซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดในสวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก และนอร์เวย์
ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Whit Monday
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 553.24 จุด ลดลง 0.40 จุด, -0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,832.28 จุด ลดลง 5.63 จุด, -0.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,791.47 จุด ลดลง 13.40 จุด, -0.17%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,174.32 จุด ลดลง 130.14 จุด, -0.54%
กลุ่มสาธารณูปโภคที่มักถูกจัดว่าเป็นตัวแทนของพันธบัตร เป็นกลุ่มที่ลดลงมากที่สุดจากแรงกดดันของพันธบัตรโซนยูโรที่ร่วงลง
ขณะที่การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และจีนดำเนินไปในลอนดอน ตลาดต่างพยายามหาสัญญาณที่ชัดเจนของความคืบหน้าที่อาจลดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกลงได้
จีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ายินดีที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบและอนุมัติการส่งออกแร่ธาตุหายากไปยังบริษัทในสหภาพยุโรป
กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นภาคส่วนที่เสี่ยงต่อการหยุดชะงักของอุปทานแร่ธาตุหายากยังคงทรงตัว
ในสัปดาห์นี้ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจระดับภูมิภาคมากมาย ทั้งการว่างงานของสหราชอาณาจักรและ GDP นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการ อิซาเบล ชนาเบล ก็มีกำหนดการแสดงความเห็น
นายปีเตอร์ คาซิเมียร์ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว และจะจับตาดูข้อมูลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่
นักลงทุนยังรอข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพื่อประเมินว่านโยบายภาษีศุลกากร ที่ไม่แน่นอนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มส่งผลกระทบในเศรษฐกิจโดยรวมหรือไม่
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 65.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 67.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

