HoonSmart.com>>บล.บลูเบลล์ ประเมินหุ้นทั่วโลกผันผวนน้อยลง รับสงครามการค้าผ่อนคลาย หนุนดัชนี “แกว่งตัวขึ้น” แนะกองทุนโลกเน้น “𝗤𝘂𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 & 𝗚𝗿𝗼𝘄𝘁𝗵” สร้างผลตอบแทนได้ดี พร้อมคุมความผันผวนได้ต่ำจัดพอร์ตหลักครึ่งปีหลัง กระจายลงทุนกองทุนหุ้นอินเดีย จีน หุ้นเทค หุ้นกลุ่มการแพทย์ หุ้นเหมืองทองคำ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในพอร์ตเสริม คัด 6 กองทุนจัดพอร์ตลงทุน ชี้เป้า “𝗨𝗘𝗦𝗚 , 𝗘𝗦-𝗨𝗦𝗕𝗟𝗨𝗘𝗖𝗛𝗜𝗣 , 𝗠𝗘𝗚𝗔𝟭𝟬𝗖𝗛𝗜𝗡𝗔-𝗔 , 𝗘𝗦-𝗜𝗡𝗗𝗔𝗘 , 𝗞𝗧-𝗧𝗘𝗖𝗛𝗡𝗢𝗟𝗢𝗚𝗬-𝗔 , 𝗞𝗧-𝗣𝗥𝗘𝗖𝗜𝗢𝗨𝗦
บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ มองตลาดหุ้นโลกยังคงฟื้นตัว แต่มีความผันผวนจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯและจีนที่มีการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันชั่วคราว 90 วัน ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกฟื้นตัวตั้งแต่ต้นเดือนเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเผชิญความกังวลในระยะสั้น จาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐฯ จาก AAA เป็น Aa1 โดย Moody’s ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 20 ปี พุ่งขึ้นแตะ 5.10% จากความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะ และ ตลาดกลับมาผันผวนอีกครั้ง จากการที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป แต่ไม่กี่วันถัดมาก็เลื่อนเวลาบังคับใช้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาบวกและคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ยุโรป
แม้จะมีความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ฟื้นตัวแรง เนื่องจากตลาดมองว่า นโยบายภาษีนำเข้าเป็นเพียงกลยุทธ์กดดันคู่เจรจาเท่านั้น ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ออกมาดีกว่าคาดถึง 78% ทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวสูงกว่าระดับก่อนการประกาศภาษีนำเข้า
ในช่วงสิ้นเดือน พ.ค. ตลาดได้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ ยังคงมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากคำสั่งศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ ที่ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า 10% และภาษีเพิ่มเติมอื่นๆ โดยชั่วคราวระหว่างรอการอุทธรณ์จากรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในระยะข้างหน้า
บล.บลูเบลล์ ประเมินการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหลังจากนี้จะมีความผันผวนที่น้อยลงจากช่วงก่อนหน้า จากโทนของสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลงมาเยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับช่วงเดือน เม.ย. และคาดว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลกจะเป็นลักษณะ “แกว่งตัวขึ้น” แนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนโลกที่มีความเป็น “𝗤𝘂𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 & 𝗚𝗿𝗼𝘄𝘁𝗵” ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และ ควบคุมความผันผวนได้ต่ำ เป็น “Core Portfolio”
ในส่วนของ “𝗦𝗮𝘁𝗲𝗹𝗹𝗶𝘁𝗲 𝗣𝗼𝗿𝘁𝗳𝗼𝗹𝗶𝗼” แนะนำให้กระจายการลงทุน ไปกองทุนกลุ่มต่าง ๆ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบที่น่าสนใจ เช่น ตลาดหุ้นอินเดีย ตลาดหุ้นจีน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มการแพทย์และ กองทุนหุ้นเหมืองทองคำที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำ แต่มีความผันผวนที่สูงกว่า สามารถช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงจากความไม่แน่นอนต่างๆ
สำหรับกองทุนรวมแนะนำประจำเดือน มิ.ย.68 ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน และทำผลตอบแทนได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยทุกกองทุนสามารถลงทุนได้ผ่านบลูเบลล์ได้แก่
กองทุน 𝗨𝗘𝗦𝗚 ลงทุนหุ้นทั่วโลก บริหารพอร์ตแบบ Balance ระหว่างหุ้น Growth & Quality เหมาะกับสภาวะปัจจุบันที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นท่ามกลางความผันผวน
กองทุน 𝗘𝗦-𝗨𝗦𝗕𝗟𝗨𝗘𝗖𝗛𝗜𝗣 ลงทุนบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ใน US ที่มีอำนาจการแข่งขันสูง จับจังหวะลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯอยู่ใน Momentum ที่แข็งแกร่ง
กองทุน 𝗠𝗘𝗚𝗔𝟭𝟬𝗖𝗛𝗜𝗡𝗔-𝗔 ลงทุนโดยตรงในหุ้นจีนขนาดใหญ่ 10 หลักทรัพย์ที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสหกรรม
กองทุน 𝗘𝗦-𝗜𝗡𝗗𝗔𝗘 กองทุนหุ้นอินเดียผลตอบแทนโดดเด่น สร้างโอกาสการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจอินเดียที่แนวโน้มเติบโตสดใส ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
กองทุน 𝗞𝗧-𝗧𝗘𝗖𝗛𝗡𝗢𝗟𝗢𝗚𝗬-𝗔 ลงทุนในหุ้น Technology นำทั่วโลกทที่ยังมีพื้นฐานดี มีกำไรเติบโตสูง กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่มี Quality สูง เหมาะกับเป็น Core Portfolio ในระยะยาว
กองทุน 𝗞𝗧-𝗣𝗥𝗘𝗖𝗜𝗢𝗨𝗦 ลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำ ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าทองคำ ในช่วงที่ทองคำปรับตัวขึ้นจากความผันผวน
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือรับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนติดต่อได้ที่ #ผู้แนะนำการลงทุนของบลูเบลล์ หรือ Line : https://lin.ee/JFZeUCP