HoonSmart.com>>นักวิเคราะห์ประสานเสียงเชียร์หุ้น “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” (ADVANC) พื้นฐานแกร่ง หนุนราคาขึ้นแรงกว่า 2% สวนทางตลาดโดยรวมที่ร่วงกว่า 10 จุด เป็นหุ้น Defensive กำไรโต-ปันผลสูง ชนะความไม่แน่นอนจากภาษีสหรัฐฯ เศรษฐกิจชะลอ ส่วนการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ถูกลง บล.ธนชาต ให้เป้าสูงถึง 350 บาท บล.ทรีนีตี้คาดได้ประโยชน์จาก DELTA ถูกทิ้ง แนะ 10 หุ้นเด่น เดือนมิ.ย. ให้แนวรับ 1130,1100 แนวต้าน 1180, 1210 จุด
ตลาดหุ้นวันแรกของสัปดาห์นี้ 4 มิ.ย. 2568 นักลงทุนพร้อมใจกันถล่มหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) DELTA จมลึกสุด 91.25 บาท ก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ 94.50 บาท ร่วงลง 9.50 บาทหรือ 9.13% ทุบตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเหวลึก 1,127.57 ร่วงลง 21.61 จุด ได้หุ้นใหญ่ อย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ช่วย ราคาปิดที่ 293 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท หรือ+2.45%รวมถึงแรงซื้อกลับหุ้นค้าปลีก CPALL,CRC หลังราคาปรับลงจากการถูกปรับลดน้ำหนักในดัชนี MSCI เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สาเหตุที่หุ้น DELTA ตกเป็นเป้าขายหนักมาก เจอแรงกดดันจากการปรับเกณฑ์ถ่วงนํ้าหนักใน SET50 SET100 ใหม่ ที่จํากัดนํ้าหนักหุ้นรายตัวสูงสุดไม่เกิน 10% เริ่ม 1 ก.ค. เป็นต้นไป ปัจจุบันสูงกว่า 10% อยู่เล็กน้อย ทำให้กองทุน นักลงทุนสถาบันต้องลดน้ำหนักลง ต้องชิงขายก่อน แต่ก็มีแรงซื้อกลับเพราะฟื้นฐานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่การขายหุ้น DELTA ออกไป ก็ต้องโยกเข้าซื้อหุ้นใหญ่ตัวอื่นๆเพิ่มเติม
บล.ธนชาต แนะนำ”ซื้อ” ADVANC เป็นหุ้น Defensive ที่กําไรเติบโต อัตราผลตอบแทนปันผลสูง ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 350 บาท จาก 3 ปัจจัย 1) การแข่งขันที่ลดลงส่งผลให้ ARPU เพิ่มขึ้นทั้งลูกค้าบริการมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้าน จากฐานลูกค้าที่เติบโต และราคาแพ็คเกจดีขึ้น นอกจากนี้ต้นทุนที่ลดลงยังทําให้อัตรากําไรดีขึ้นด้วย 2) มีความเสี่ยงในการประมูลคลื่นความถี่รอบถัดไปน้อยกว่า TRUE และคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนคลื่นโดยรวม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนกําไรในระยะถัดไป 3) มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมให้ปันผลสูงระดับ 4-5% ในปี 2568-2570 และมองเป็นหุ้น defensive play ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นของสหรัฐและเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว
บล.ฟินันเซีย ไซรัส จัดให้ ADVANC เป็นหุ้นเด่น ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus ที่ 317.65 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 และครึ่งหลังปี 2568 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่อง หนุนจากทั้งฝั่งรายได้ที่คาดว่ายังเติบโตแข็งแรง ขณะที่ต้นทุนไม่มีแรงกดดันเพิ่มเติมหลังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เหมือนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงภาพการแข่งขันที่เบาลง
ส่วนการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่คาดว่าจะไม่แพงเท่าในอดีต ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ระยะยาวลดลง และเป็นบวกต่อกำไรสุทธิ ประมาณการกำไรปี 2568 ของ Consensus ล่าสุดอยู่ที่ 4-4.1 หมื่นล้านบาท +16% เทียบกับปีก่อน
ด้านบล.ทรีนีตี้แนะนำการลงทุน 5 ธีม ใน 10 หุ้นน่าสนใจ สำหรับเดือนมิ.ย. ได้แก่
1) กลุ่ม Global cyclical ที่อิงกับภาพเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเมินว่าจะมีความเสี่ยง Downside risk จำกัดมากกว่าเศรษฐกิจไทย ได้แก่ PTTGC, SCC, HANA
2) หุ้นโรงแรมที่มีการกระจายรายได้ไปยังต่างประเทศในระดับสูง ได้แก่ MINT
3) กลุ่ม Defensive ภายในประเทศ ที่ Valuation อยู่ในโซนต่ำ เช่น BDMS, CPALL, GPSC
4) กลุ่มหุ้นที่เราคาดการณ์ว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ได้แก่ BCP, TCAP
5) หุ้นขนาดใหญ่ที่จะได้ประโยชน์จากการเกลี่ยน้ำหนักออกจากหุ้น DELTA ได้แก่ ADVANC
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือนมิ.ย.มีโอกาสแกว่งรีบาวด์ขึ้นได้ในช่วงครึ่งเดือนแรก หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาการปรับพอร์ตตามดัชนี MSCI ของนักลงทุนต่างชาติ และยังไม่มีปัจจัยข่าวร้ายด้านสงครามการค้ามากนัก แต่ในช่วงกลางเดือน อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น จากปัจจัยการเมืองที่อาจเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น และปัจจัยเชิงเทคนิคในช่วงปลายเดือน ที่นักลงทุนสถาบันในประเทศอาจมีการทยอยลดน้ำหนักหุ้น DELTA เพื่อรองรับกับการคำนวณดัชนีรูปแบบใหม่ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป
” SET เดือนมิ.ย.มีแนวรับอยู่ที่ 1130 และ 1100 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 1180 และ 1210 จุด แนะนำนักลงทุนใช้กลยุทธ์ “ขึ้นขาย-ลงซื้อ” ส่วนปัจจัยคาดหวังที่อาจเป็นตัวช่วยประคอง SET ได้แก่ เม็ดเงินใหม่ที่ไหลเข้าสู่กองทุน Thai ESGX ในช่วงโค้งสุดท้าย”นายณัฐชาตกล่าว