HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงแทบทั้งภูมิภาค หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าในประเทศ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ฉุดหุ้นเหล็กในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วงลงแรง
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็ลดลงเช่นเดียวกัน ธุรกิจของญี่ปุ่นเร่งลงทุนด้านทุนในไตรมาสแรกของปี แม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะเริ่มดำเนินการเก็บภาษีในเดือนมีนาคมก็ตาม
กระทรวงการคลังรายงานเมื่อวันจันทร์ว่ารายจ่ายด้านทุนสำหรับสินค้า (ไม่รวมซอฟต์แวร์) เพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1.3% ในช่วงก่อนหน้า
ณ เวลา 10.12 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 37,414.02 จุด ลดลง 551.08 จุด, -1.45%
ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความไม่มั่นใจ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีศุลกากรของทำเนียบขาว ขณะเดียวกันก็รอข้อมูลการจ้างงานที่สำคัญของสหรัฐฯ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของยุโรป
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าเป็น 50% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน เป็นต้นไป
หุ้นเหล็กในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วงลง โดยบริษัทผลิตเหล็กของญี่ปุ่น JFE Holdings ลดลง 1.23% และ Kobe Steel ลดลง 0.18% ส่วนหุ้น Hyundai Steel ของเกาหลีใต้ ลดลง 3% ขณะที่ผู้ผลิตเหล็ก Posco Holdings ลดลง 1%
Nippon Steel ของญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 1.58% หลังจากที่ทรัมป์ประกาศให้บริษัทเป็น พันธมิตรที่ยอดเยี่ยม ของ U.S. Steel เมื่อวันศุกร์
ตลาดจับตาว่าทรัมป์จะเดินหน้าเก็บภาษีศุลกากร 50% ในวันพุธนี้หรือจะถอยกลับเหมือนที่เคยทำมาบ่อยครั้ง
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในเร็วๆ นี้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเกี่ยวกับแร่ธาตุที่สำคัญ
ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือนกรกฎาคมเท่ากับในสองเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการบรรเทาความกังวลสำหรับผู้ที่เกรงว่าการผลิตจะเพิ่มขึ้นมากยิ่งกว่านี้
ผลผลิตภาคการผลิตของเกาหลีใต้ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 31 เดือน โดยส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและนโยบายการค้าโลก S&P Global รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอยู่ที่ 47.7 ในเดือนพฤษภาคม ดีกว่า 47.5 ในเดือนเมษายน แต่ยังหดตัวเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นจีน มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ปิดทำการในช่วงวันหยุด
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 22,717.37 จุด ลดลง 572.4 จุด, -2.46%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,698.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.3 จุด, +0.05%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 21,016.58 จุด ลดลง 330.72 จุด, -1.55%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 3.13% ปิดที่ 62.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 63.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
