KTAM มองหุ้นไทยพ.ค. Side way คัดกองทุนเด่นจัดพอร์ตกระจายลงทุน

HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย มองแนวโน้มเดือนพ.ค. หุ้นไทย Side way ขาดปัจจัยใหม่หนุน ด้าน Valuation ไม่แพงยังมี Upside รับกำไรปี 67 ฟาก “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” ผันผวนสูง แนะกระจายลงทุนหุ้นยุโรป หุ้นทั่วโลก พร้อมคัดกองทุนเด่น จัดพอร์ตกระจายลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เผย “มุมมองการลงทุนในเดือนพ.ค.2567” โดยมองตลาดหุ้นไทย SET ณ ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกเพิ่มเติม ตลาดยังคงปรับตัวลดลงตามตลาดต่างประเทศ, หุ้นหลายตัวยังคงจ่ายปันผลอยู่, ตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมาลดลง และแม้งบประมาณจะเริ่มเบิกจ่ายได้แล้วแต่ก็ยังไม่มีนโยบายใหม่ๆ เข้ามาเป็น Sentiment บวก

“เรามองว่าตลาดน่าจะยังคง Side way ในช่วงนี้ แต่ในเชิง Valuation ตลาดหุ้นไทยถือว่าไม่แพง และยังมี Upside อีกมากเมื่อเทียบกับ Earning Forecast ของปี 2567 หุ้นไทยเรายังมีมุมมอง “เชิงบวก” โดยีการปรับเปลี่ยนน้ำหนักให้ KT-HiDiv และ KTMSEQ เป็น Core Portfolio โดยมีน้ำหนัก KTMSEQ เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ และมี KTSF เป็ น Satellite Portfolio เพื่อกระจายความเสี่ยงในระยะสั้น”บลจ.กรุงไทย แนะนำ

 
สำหรับตราสารทุนต่างประเทศเรายังคงมีมุมมอง “เป็นกลาง” โดยในรายประเทศฝั่งสหรัฐฯ ความกังวลเรื่องดอกเบี้ยกลับมาสร้างความผันผวน แม้ว่าจะมีประเด็น Earning Surprise จากผลประกอบการไตรมาส 1/2024 เข้ามาเป็น Momentum ช่วยพยุงตลาดได้บ้าง แต่ประเด็นเรื่องผลประกอบการก็อาจสร้างความผิดหวังได้เช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่ม Big Tech ที่ตลาดเห็น Earning ที่ดีต่อเนื่องมาหลายไตรมาส ความคาดหวังเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผลประกอบการที่ออกมาอาจผิดหวังได้จากปัจจัยเล็กๆ แม้ว่างบโดยรวมจะดี

ตลาดสหรัฐฯ ผันผวนสูง จึงแนะนำปรับการลงทุนใน KT-US มาลงทุนใน KT-EUROSM และแบ่งส่วนหนึ่งมาเพิ่มการลงทุนใน KT-WEQ โดย KT-EUROSM ที่ Momentum ยังดีอยู่ยังไม่ได้ปรับตัวลงแรงเหมือนฝั่งสหรัฐฯ และความผันผวนจากประเด็นดอกเบี้ยน้อยกว่า ECB มีท่าทีมั่นใจกว่าในการลดดอกเบี้ย โดยมองไปถึง Earning growth ปีหน้าที่ค่อนข้างสูง และต่างจาก Earning growth ปีนี้มาก แต่ก็ยังมองว่ามีโอกาสที่ Earning ฝั่งสหรัฐฯ จะออกมาดีจาก GDP ที่ยังเติบโตแม้จะชะลอลง จึงเพิ่มการลงทุนบางส่วนใน KT-WEQ ซึ่งเป็นเสมือน Core Portfolio ของเรา

นอกจากนี้ยังมีมุมมอง “เป็นกลาง” สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยโดยทยอยสะสมเพิ่ม Duration ระยะยาวจาก Yield ที่สูงราคาที่ถูก และพร้อมสำหรับการปรับดอกเบี้ยลง จึงมีการปรับเพิ่มสัดส่วน KTFIXPLUS และลดสัดส่วน KTSTPLUS

 

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก (MSCI ACWI) เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 3.3% จากกลุ่ม DM เป็นหลัก นำโดยตลาดสหรัฐฯ ที่สะดุดตัวลงหลังจากปรับตัวขึ้นมาได้ดีในช่วงไตรมาส 1 จากประเด็นดอกเบี้ย โดยตลาดปรับตัวลดลงในช่วงต้นเดือน ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายเดือนหลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 1 เริ่มทยอยออกมาหนุนตลาด และ Fed เข้าสู่ Silent Period ทำให้ความผันผวนจากประเด็นดอกเบี้ยเงียบไปช่วงสิ้นเดือน โดย NASDAQ ลดลง 4.4% และ S&P500 ลดลง 4.1%

“ยุโรป” เงินเฟ้อมีพัฒนาการลดลงดีกว่า และภาคบริการที่ค่อยๆ ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ ECB มีท่าทีที่มั่นใจกว่าในการลดดอกเบี้ย ซึ่งตรงกับความคาดหวังของตลาดที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบมิ.ย. ทำให้ตลาดฝั่งยุโรปดูจะผันผวนน้อยกว่า และปรับตัวลดลงน้อยกว่าฝั่ งสหรัฐฯ โดย Stoxx50 และ Stoxx600 ปรับตัวลดลง 2.4% และ 1.8% ตามลำดับ

“เอเชีย” เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่เป็นไปตามเป้าของ BoJ โดย Nikkei225 หลังจากทำ New High ในไตรมาสที่ 1 ก็ปรับตัวลงแรง 4.9% กลุ่ม EM เริ่มจากจีนที่ดูสดใสกว่าเมื่อเทียบกับฝั่งตะวันตก ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมายังคงดีอยู่ และในเชิง Technical หลังจากที่ Side way มาตลอดทั้งเดือนก็สามารถผ่านแนวต้านไปได้ โดยทั้ง CSI300 และ Hang Seng ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0% และ 7.4% ตามลำดับ

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ปรับตัวลงแรงจากประเด็นการเมือง VNI ปรับตัวลดลง 5.8% ส่วนอินเดียเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งแล้ว และ GDP มีการปรับประมาณการขึ้นในปีนี้ แต่ตลาดยังคง Side way อยู่ในกรอบยังไม่ทำ New High ใหม่ SENSEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1%

“ตลาดหุ้นไทย” ผันผวนมากในเดือนนี้เริ่มจากปรับตัวขึ้นแรงก่อนการประชุม กนง. แต่ก็ปรับตัวลงแรงหลังจากผิดหวังผลการประชุมที่คงดอกเบี้ย ก่อนจะค่อยๆ Rebound กลับขึ้นมาในช่วงสิ้นเดือน SET ไม่เปลี่ยนแปลง 0.0% (ที่มา Bloomberg: ข้อมูล ณ วันที่ 26เม.ย. 2567)

ด้าน “ตลาดตราสารหนี้ไทย” Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลัง กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย และมีท่าทีจะคงดอกเบี้ยตลอดทั้งปี โดยในเดือน เม.ย. Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในกลุ่ม Duration ยาว(>1ปี )ในขณะที่ Yield กลุ่ม Duration สั้น (<1ปี )ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ Yield พันธบัตรไทยยังโดนกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติทำให้ Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเรามองว่า Yield พันธบัตรไทยใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว         บลจ.กรุงไทย แนะนำกองทุนเด่น ประจำเดือนพ.ค.2567 จำนวน 8 กองทุน ได้แก่   ประเภทกองทุนรวม_ตลาดเงิน_ตราสารหนี้_และกองทุนรวมผสม

กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า บอนด์ ฟันด์ (KT-CHINABOND)
กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Defensive
กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate
กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Growth
 

 
ประเภทกองทุนรวมหุ้นใน และต่างประเทศ

กองทุนเปิดเคแทม Japan Small Cap Equity (KT-JAPANSM)
กองทุนเปิดเคแทม Blockchain Economy (KT-BLOCKCHAIN)
กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม (KT-CHINA-SSF)
กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-Ashares RMF)
 


 
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG)

กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือKTAG70/30-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG 50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ KTESG50-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ KTAG-ThaiESG