TKN พุ่ง 12.75% กำไร Q1/67 เด้งขึ้น 77% ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 15%

HoonSmart.com>>หุ้น TKN พุ่ง 12.75% หลังรายงานกำไรไตรมาส 1/67 ที่ 294.44 ล้านบาท เติบโต 77.4% จากงวดเดียวกันของปี 66 เป็นผลของการมุ่งเน้นการบริหารขีดความสามารถของอัตรากำไรขั้นต้นด้วยการบริหารยอดขาย ควบคู่กับการบริหารต้นทุน-ค่าใช้จ่าย อีกทั้งเงินบาทอ่อนค่าในไตรมาส 1 ทำให้รับรู้ผลอัตราแลกเปลี่ยนเป็นบวก 19.1 ล้านบาท พร้อมวางเป้ายอดขายปี 67 เพิ่มขึ้น 15%

เมื่อเวลา 10.26 น.หุ้น TKN พุ่ง 12.75% มาที่ 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 491.18 ล้านบาท โดยเปิดตลาด 11.60 บาท ขึ้นสูงสุด 12.20 บาท และต่ำสุด 11.30 บาท

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 294.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไร 166.01 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.21 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 0.12 บาท

พร้อมอธิบายว่า ผลกำไรสุทธิไตรมาสที่ 1 จำนวน 294.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.5 ของรายได้จากการขาย เติบโตขึ้นร้อยละ 77 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน หรือด้วยจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น 128.4 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 76 จากไตรมาส 4 ปี 2566) ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธินี้ เป็นผลของการมุ่งเน้นการบริหารขีดความสามารถของอัตรากำไรขั้นต้นด้วยการบริหารยอดขายควบคู่กับการบริหารต้นทุน การบริหารค่าใช้จ่ายในการบริหารและการจัดจำหน่ายตามงบประมาณด้วยการบริหารงานตามกลยุทธ์ 3GO ที่สามารถทำให้บริษัทฯ เพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรจากภายในองค์กรและมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนต่อสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ด้วยผลของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงไตรมาส 1 ทำให้บริษัทรับรู้ผลของอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นบวก 19.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิด้วย

สำหรับภาพรวมปี 2567 บริษัทฯ วางแผนเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในอัตรารวมที่เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมุ่งเน้นการบริหารงานภายในให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายและมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์แม้ว่าภาวะต้นทุนสาหร่ายจะสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นภาวะตามธรรมชาติของอุตสาหกรรมสาหร่ายที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากธรรมชาติบริษัทได้วางแผนการดำเนินงานในการลดผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้นในหลายๆส่วน ทั้งในการปรับราคาสินค้าเมื่อไตรมาส 4 ปี 2566 ในบางประเทศ การเพิ่มขีดความสามารถในอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย การบริหารยอดขายที่มุ่งเน้นสินค้าและช่องทางการขายที่มีกำไร และการมีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้เพื่อลดผลกระทบเรื่องราคาสาหร่ายในระยะสั้นปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทได้เน้นถึงความยืดหยุ่นของแผนงานที่สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาได้ และบริษัทเห็นโอกาสในปีนี้คือเมื่อวัตถุดิบสาหร่ายมีราคาสูงขึ้น การแข่งขันทางด้านตลาดก็จะลดลงเนื่องจากภาระต้นทุนสูง ดังนั้นบริษัทเถ้าแก่น้อยที่พร้อมด้วยบุคคลากรและความสามารถในการแข่งขันก็จะมีโอกาสเจาะตลาดได้มากขึ้น การสร้างพื้นฐานการดำเนินงานต่างๆ ที่ดีจะส่งผลในระยะยาวโดยเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ก็จะส่งผลต่อการทำกำไรในระยะยาวของบริษัทให้ดีขึ้นตามลำดับ