TPL เพิ่มทุน 1,857.62 ล้านหุ้น ผนึก 2 พันธมิตร ขึ้นแท่นศูนย์กลางโลจิสติกส์ครบวจร

HoonSmart.com>>”อควา คอร์เปอเรชั่น”(AQUA) ปรับพอร์ตลงทุนก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ใน TPL ที่ประกาศ Project Synergy Move ขึ้นแท่นศูนย์กลางโลจิสติกส์ครบวงจร จากผนึก 2 พันธมิตรหลัก “เฟิสท์ ทรานสปอร์ต”(FT) และ”เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น”(CPC) โดย TPL จะเพิ่มทุน 1,857.62 ล้านหุ้น ขาย RO-PP รวมถึงทำรายการ PP Share Swap และรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ TPL-W1, TPL-W2 และ TPL-W3

บริษัท ไทยพาร์เซิล (TPL) แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัท ประชุมเมื่อ 28 พ.ค. 2568  อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ อีก 928.80 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 262 ล้านบาท เป็นทุนใหม่ 1,190.80 ล้านบาท  โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1,857.61 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท  1,857,619,054 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน  436.66 ล้านหุ้น , เสนอขาย PP จำนวน 373.50 ล้านหุ้น , เสนอขายบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA)  และ บริษัท เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น (CPC)  จำนวน 584.50 ล้านหุ้น ตอบแทนรายการ CPC ตามรายการ PP Share Swap

รวมทั้งรองรับการใช้สิทธิ TPL-W1, W2 และ W3  รวมจำนวน 462.94 ล้านหุ้น

TPL จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ชุดที่ 1 จำนวน 249.52 ล้านหน่วย สัดส่วน 1.75 หุ้น : 1 TPL-W1

ออกและจัดสรร TPL-W2 จำนวน 108.57 ล้านหน่วย และ TPL-W3 จำนวน 104.85 ล้านหน่วย จัดสรรให้นายวรุณชัย ลีกาญจนากร และนางพรรณทิพา ทองจินดาวงศ์ ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามรายการ PP

ทั้งนี้ TPL-W1, W2 และ W3 มีอายุ 18 เดือนนับจากวันออก อัตราการใช้สิทธิ 1 : 1 หุ้นละ 0.70 บาท

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ฯ อนุมัติซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น (CPC) จำนวน 6,635,000 หุ้น คิดเป็น 100% ของหุ้นทั้งหมด โดยซื้อจากบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) และบริษัท เฉลิมภัทร 2022 และ/หรือบุคคลที่บริษัท เฉลิมภัทร 2022 กำหนด (“CPC 2022” และเรียกรวมกับ AQUA ว่า “ผู้ขาย CPC”)

ทั้งนี้ CPC เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ซึ่งลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจด้านการให้บริการขนส่งผู้โดยสารในหลายรูปแบบครอบคลุมทั้งภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ได้แก่ บริษัท เฉลิมภัทรทรานสปอร์ต (CPT) บริษัท ภัทรมงคล (PTR) และบริษัท เฉลิมภัทร (CLP) โดย CPC ถือหุ้นในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจเชิงปฏิบัติการผ่านบริษัทย่อยทางตรง ได้แก่ บริษัท เฉลิมภัทร โฮลดิ้ง (CPH) และบริษัทย่อยทางอ้อม ได้แก่ บริษัท เฉลิมภัทร 30 (CP30) ซึ่ง CPC ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วน 100%

โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนโดยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 584.5 ล้านหุ้น 500,000 หุ้น พาร์ 0.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 52.73% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ  ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 409.15 ล้านบาท ให้แก่ผู้ขาย CPC ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) แทนการชำระค่าตอบแทนด้วยเงินสด (รายการ PP Share Swap)และให้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ

นอกจากนี้รายการ CPC และรายการ PP Share Swap (ในส่วนที่บริษัทฯ จะเข้าทำรายการกับ AQUA) ยังเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจาก AQUA เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ จากการที่ AQUA เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ และเนื่องจากปัจจุบัน AQUA ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ 112,708,200 หุ้น และภายหลังจากที่รายการ CPC และรายการ PP Share Swap เสร็จสมบูรณ์ AQUA จะได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัทฯ จำนวน 428,574,604 หุ้น ซึ่งส่งผลให้ AQUA จะถือหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัทฯ จำนวน 541,282,804 หุ้น  คิดเป็น 48.83% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทั้งนี้ AQUA จึงประสงค์จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (“Whitewash”)

พร้อมอนุมัติซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เฟิสท์ ทรานสปอร์ต (FT) จำนวน   2.06 ล้านหุ้น หรือ 100%  โดยซื้อจาก (1) บริษัท สยามเจมส์ กรุ๊ป จำกัด (2) นายธนายุทธ ทองจินดาวงศ์ (3) นางพรรณทิพา ทองจินดาวงศ์ (4) นางสาววิยดา ทองจินดาวงศ์ (5) นางสาวปนัสยา ทองจินดาวงศ์ และ (6) นางสาวปพิชญา ทองจินดาวงศ์ (รวมเรียกว่า “ผู้ขาย FT”) โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสดทั้งจำนวน รวม  779.78 ล้านบาท ให้แก่ผู้ขาย

ทั้งนี้ กำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568

นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า “Project Synergy Move ครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดเชิงกลยุทธ์ ที่ออกแบบมาเพื่อรวมจุดแข็งของแต่ละฝ่าย ทั้งเทคโนโลยีการขนส่ง เครือข่ายการให้บริการ บุคลากร และฐานลูกค้า เพื่อต่อยอดสู่แพลตฟอร์มใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งการขนส่งพัสดุ การเดินทางของพนักงานภาคอุตสาหกรรม และการบริการแบบ B2B และ B2C อย่างครบวงจร”

“TPL กำลังก้าวข้ามจากการเป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่แบบเดิม สู่ภาพใหม่ในฐานะ ‘Smart Logistics + Human Mobility + Digital Transport’ ที่เชื่อมต่อทั้งแพลตฟอร์ม บริการ และโครงสร้างพื้นฐานไว้ในเครือเดียวกัน เพื่อรองรับอนาคตของการขนส่งในทุกมิติ”

“เมื่อรวมเครือข่ายของ TPL เข้ากับพันธมิตร จะทำให้กลุ่มบริษัทมีรถให้บริการรวมกว่า 1,500 คัน เพิ่มจำนวนบุคลากรรวมกว่า 1,000 คน พร้อมศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ ระบบ EV และ AI รวมถึงศูนย์ข้อมูลแบบรวมศูนย์ ซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนซึ่งกันและกันในกลุ่ม และสร้าง EBITDA ไม่ต่ำกว่า 340 ล้านบาทต่อปี เปิดโอกาสให้ TPL ขยายฐานลูกค้า เข้าถึงอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และต่อยอดการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง”

จากการประเมิน Project Synergy Move จะทำให้ให้มูลค่ากิจการรวม (Enterprise Value) ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2,890 ล้านบาท (โดยประมาณ) จากจำนวนรถเพื่อการโดยสารในเครือรวมมากกว่า 1,500 คัน ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองในด้านต้นทุนเชื้อเพลิง อะไหล่ ประกันต่างๆ รวมถึงการใช้ทรัพยากรด้านการซ่อมบำรุงร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลถึงคาดการณ์ต่อเป้าหมายการดำเนินงานของกลุ่ม TPL ที่จะเกิดขึ้นคือรายได้รวมมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี และ EBITDA รวมคาดว่าจะอยู่ที่ราว 340 ล้านบาทภายใน 2 ปี

“TPL ขับเคลื่อนทุกการเคลื่อนที่ของชีวิต” ไม่ใช่แค่คำขวัญ แต่คือนิยามใหม่ของ TPL ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทฯ ที่เป็นแพลตฟอร์มระดับประเทศสำหรับการขนส่งและการเคลื่อนย้ายคน ที่เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ ด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลอย่างยั่งยืน

“AQUA” เดินเครื่องผนึกกำลังพันธมิตร ร่วมส่ง TPL ขึ้นแท่น Logistics & Transportation ครบวงจร

บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) จัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 โดยมีรายละเอียดสำคัญได้แก่ การรับทราบแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของ TPL, อนุมัติจำหน่ายหุ้น CPC ให้ TPL และ อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TPL เพื่อตอบรับ Project Synergy Move ของ บริษัท ไทยพาร์เซิล หรือ TPL

“Project Synergy Move” คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในกลุ่มโลจิสติกส์อย่างเป็นรูปธรรม ยกระดับความแข็งแกร่งของบริการ ปรับเปลี่ยนองค์กร TPL จากบริการรูปแบบเดียวสู่การเป็น “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ครบวงจร” (Integrated Logistics Hub) ขนาดใหญ่อันดับต้นของประเทศ

นาย ฉาย บุนนาค รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การวางโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ในกลุ่มโลจิสติกส์ครั้งนี้ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในเครือ AQUA เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาวที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล”

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จำหน่ายหุ้นทั้งหมดในบริษัท CPC ที่ถืออยู่ให้แก่บริษัท TPL โดยการดำเนินธุรกรรมนี้จะเป็นการขายหุ้นทั้งหมด 100% ของ CPC จากทั้ง AQUA และ CPC2022 ให้แก่ TPL คิดเป็นมูลค่า 409.15 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับหุ้นเพิ่มทุนของ TPL มูลค่า 300 ล้านบาท โดยการชำระเงินจะดำเนินการผ่านการออกหุ้นเพิ่มทุนของ TPL

การทำธุรกรรมครั้งนี้เป็นการทำ Share Swap โดยบริษัทฯจะได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TPL จำนวน 428,574,604 หุ้น คิดเป็น 38.66% ของหุ้นเพิ่มทุน และเมื่อรวมกับหุ้นเดิม จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน TPL เพิ่มจาก 21.5% ก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ใน TPL ซึ่งถือเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนที่สำคัญ บริษัทฯ มีธุรกิจโลจิสติกส์เบอร์ต้นของประเทศอยู่ภายในเครือ ทั้งเป็นการรักษาสัดส่วนการลงทุนและเสริมความมั่นคงในระยะยาว Project Synergy Move มีเป้าหมายในการยกระดับมูลค่ารวมของกิจการ (Enterprise Value) ของ TPL ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จะส่งผลให้กลุ่มบริษัท TPL มีจำนวนรถเพื่อการโดยสารในเครือมากกว่า 1,500 คัน ส่งผลให้กลุ่ม TPL เดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้รวมระดับพันล้านบาทต่อปี พร้อมรักษาระดับ EBITDA Margin ให้มั่นคง และ EBITDA รวมคาดว่าจะอยู่ที่ ราว 340 ล้านบาท ภายใน 2 ปี