หุ้นเช้านี้ลบ 2.03 จุด บิ๊กแคปกดดัน

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.03 จุด หุ้นบิ๊กแคปกดดันท่ามกลางจับตาเงินทุนไหลเข้าเอเชีย สถานการณ์ตะวันออกกลาง เก็งงบฯ และเก็งข่าวกองทุน LTF

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 8 พ.ค. 2567 ณ เวลา 10.04 น.อยู่ที่ระดับ 1,374.34 จุด ลดลง 2.03 จุด หรือ -0.15% มูลค่าซื้อขาย 4,913.98 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสยืนเหนือ 1,380 จุด จับตา Fund Flow เข้าเอเซีย สถานการณ์ตะวันออกกลาง (เก็ง)งบบริษัท และเก็งข่าวกองทุน LTF โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้อานิสงค์จากกำไรบริษัทในตลาดหุ้นที่ออกมาดี และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด (จาก พ.ย. มาเป็น ก.ย.) ซึ่งจะดีมาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ด้วย ผ่านมาทางดอลล่าร์อ่อนค่า และ Flow ที่กลับเข้ามาเก็งกำไรรับการคาดการณ์ดอกเบี้ยใหม่ของสหรัฐฯ

สถานการณ์ตะวันออกกลาง อิสราเอลเตรียมบุก Rafah ข่าวนี้ออกมาในช่วงวันจันทร์ ซึ่ง surprise เนื่องจากก่อนหน้านี้ สองฝ่ายมีโอกาสบรรลุการเจรจาหยุดยิง และอิสราเอลถูกกดดันจากต่างชาติไม่ให้บุกเข้าพื้นที่นี้ ผลต่อตลาดหุ้นจะออกไปในทางลบ(เล็กน้อย) จนกว่าจะบุกจริงค่อยมาดูกันอีกที ส่วนราคาน้ำมัน(PTTEP) จะตอบรับทางบวก ต่อเรื่องนี้ แต่ขึ้นได้แบบมีข้อจำกัด เนื่องจากสงคราม กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ที่ยังเปราะบาง

ตลาดหลักๆ ของเอเซีย ค่อยๆดีขึ้น ในเชิงของดัชนีฯ จีนและฮ่องกง ตอบรับกับการเข้ามาดูแลจากทางการ และนักกลยุทธ์ ให้น้ำหนักลงทุนมาที่นี่มากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผ่านการ Intervene ค่าเงิน และตลาดเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น การที่เฟดอาจลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น เป็นตัวช่วยให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง ส่วนตลาดหุ้นอินเดีย ราคาหุ้นขึ้นมามาก หุ้นบางตัวงบไม่ได้ และอยู่ในช่วงเลือกตั้ง ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียไม่ค่อย perform เมื่อเทียบกับ 3 ตลาดแรกที่กล่าวไป

จับตานโยบาย รัฐมนตรี 2 ท่านที่รับตำแหน่งใหม่ (ก.ท่องเที่ยวฯ+ก.คลัง) ตามที่มองไว้แต่แรกว่า น่าจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจะดีต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT) ด้านกระทรวงการคลัง บทบาทหนึ่งคือ ดูแลกระเป๋าเงินของรัฐบาล ก็จะไปในทางภาคการลงทุน โครงการ Digital Wallet ที่น่าจะมีความชัดเจนและเคลียร์มากขึ้น และ รมว.คลังเปรยว่า อยากนำกองทุน LTF กลับมา นับเป็นข่าวดีของตลาดหุ้นไทยวันนี้

ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงของการรายงานกำไรไตรมาส 1 ปี 2567 โดยวันสุดท้ายของการนำส่งงบงวดนี้ คือ 15 พ.ค. หุ้นกลุ่มที่กำไรออกมาดี หรือคาดว่าจะออกมาดี จะเป็นกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม

Event สำคัญๆ วันนี้ บริษัทที่คาดว่าจะรายงานกำไรไตรมาส 1 คือ BAFS, OR, QH, SHR, SNNP, TOG, TU

ด้านกลยุทธ์มองดัชนีฯ น่าจะขึ้นมาอยู่ในโซนเป้าหมาย(สัปดาห์) คือ 1,380-1.396 จุด กลยุทธ์ยังเหมือนวันก่อนคือ สลับหุ้นให้ตรง theme (รายวัน) เน้นหุ้นขนาดใหญ่ หรือสภาพคล่องสูงไว้ก่อน หรือเลือกจากหุ้นที่นักลงทุน มีการ cover short

วันนี้ตลาดน่าจะมีการเก็งข่าวเรื่องตั้งกองทุน LTF เรารวมหุ้นที่กองทุน LTF (ที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน) ถือไว้มากที่สุด 5 ตัว ที่น่าเก็งกำไรจากข่าวนี้ คือ CPALL, AOT, GULF, SCB , PTT

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT อยู่ที่ 33.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 687.08 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 209.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 522.00 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 65.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.76% มูลค่าซื้อขาย 333.40 ล้านบาท
TOP อยู่ที่ 52.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.86% มูลค่าซื้อขาย 253.46 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 152.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.33% มูลค่าซื้อขาย 179.53 ล้านบาท