“คิงส์ฟอร์ด” คาด SET พักตัวแนวรับ 1,173-1,163 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐฯพุ่ง

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีเสี่ยงพักตัวลงต่อ แนวรับ 1,173-1,163 จุด ส่วนแนวต้าน 1,190-1,200 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงกว่า 800 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งต่อ กังวลผ่านร่าง กม.ปฎิรูปภาษีฉบับใหม่ของทรัมป์ดันภาระหนี้สหรัฐสูงขึ้น ค่ำนี้ติดตามดัชนี PMI หุ้นเด่นแนะนำ SGC, KCG

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ มุมมองทางเทคนิคคาดดัชนี SET วันนี้เสี่ยงพักตัวลงต่อ กลยุทธ์การลงทุน SET Index รีบาวด์ไม่ผ่าน 1,200 ก่อนมีแรงขายกดหลุดเส้น EMA ระยะสั้น ขณะที่ MACD/RSI มีสัญญาณลบ หากกลับไปยืน 1,190/1,200 คาดลงต่อ โดยมีแนวรับถัดไป 1,173/1,163

“วางจุดสังเกตุดัชนี SET บริเวณ 1,190 จุด กรณียืนไม่ได้ ยังต้องระวังการปรับฐานลงสู่ระดับ 1,160 – 1,170 แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม CPF,TFG,CBG,MALEE เป็นสินค้าจำเป็น, กลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK,SCB,BBL คาดได้ประโยชน์จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ กอปรโครงการคุณสู้ เราช่วยยังช่วยลดภาระหนี้”

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -1.91%, S&P500 -1.61%, Nasdaq -1.41% ถูกกดดันจาก US Bond Yield 10 ปี, 30 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.60%, 5.08% ตามลำดับ จากความกังวลต่อการผ่านร่าง กม.ปฎิรูปภาษีฉบับใหม่ของประธานาธิบดี.ทรัมป์อาจส่งผลให้ภาระหนี้ของสหรัฐสูงขึ้นอีก 3 – 5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลลบต่ออันดับเครดิตของสหรัฐในอนาคต ขณะที่อุปสงค์ของการประมูลพันธบัตรสหรัฐอายุ 20 ปี วานนี้ค่อนอ่อนตัว

ข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม US PMI ภาคการผลิต พ.ค. คาด 49.9 & เม.ย. 50.2 และ US PMI ภาคบริการ พ.ค. คาด 51.0 & เม.ย. 50.8

หุ้นเด่นแนะนำ SGC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 71 ล้านบาท +20%QoQ, +294%YoY หนุนจากยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 1.78 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone ที่เติบโต +37%YoY ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยรับอยู่ที่ 575 ล้านบาท +36%YoY ด้านต้นทุนทางการเงินลดลงจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืม แม้ยังมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจาก NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่อรถทำเงิน

แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากสินเชื่อ Lock Phone ที่มีผลตอบแทนที่สูงและ NPL ต่ำ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อใหม่ปี 68 ที่ 8 พันล้านบาท และเป้าสินเชื่อรวม 1 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อ Lock Phone สะสมที่เพิ่มเป็น 5-6 พันล้านบาท จากสิ้น 1Q68 ที่ 3.5 พันล้านบาท ปัจจุบันมีช่องทางการให้บริการผ่านหน้าร้านมือถือเกือบ 6 พันแห่ง การปล่อยสินเชื่อผ่าน digital platform SG FINANCE+ และกำลังทดลองให้สินเชื่อผ่าน 7-11 ซึ่งส่งผลบวกต่อกำไรในระยะถัดไป เบื้องต้นกำไรปี 68 น่าจะแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 163 ล้านบาท

หุ้น KCG (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.34 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 122 ลบ.(+71%YoY, -25%QoQ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY โตได้หนุนจากสินค้ากลุ่ม Food and Bakery Ingredient

ด้าน KCG เอง วางเป้ารายได้ปี68นี้ +High Single Digit%YoY ปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากสินค้าใหม่ๆ การหาตัวแทนกระจายสินค้าเพิ่มเติม และการให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ KCG ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 468 ล้านบาท (+15%YoY) และ 516 ล้านบาท (+10%YoY)