หุ้นเช้านี้บวก 3.01 จุด แกว่งแคบก่อนหยุดยาว-รอดูประชุม FOMC

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 3.01 จุด แกว่งแคบก่อนหยุดยาว ท่ามกลางรอดูประชุม FOMC และจับตาการหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาส

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 30 เม.ย. 2567 ณ เวลา 10.04 น.อยู่ที่ระดับ 1,364.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.01 จุด หรือ +0.22% มูลค่าซื้อขาย 3,870.47 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบก่อนเข้าวันหยุด นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลประชุม FOMC จับตาการเจรจาหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาส

การประชุม FOMC ที่จะทราบผลเช้าวันพฤหัส(2 พ.ค.) ของไทย ตลาดและเฟดคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะคงดอกเบี้ย แต่สิ่งที่นักลงทุนมองหาในการประชุมครั้งนี้ คือ เฟดมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยเร็วที่สุด เมื่อใด ตอนนี้เฟดอาจลดดอกเบี้ยปีนี้ เหลือเพียง 0-2 ครั้ง นักลงทุนปรับพอร์ตรอรับผลประชุมไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว สัปดาห์นี้ จึงเป็นสัปดาห์ที่จะรอคอยผลที่ออกมามากกว่า หุ้นที่อิงกับเรื่องนี้มากที่สุด จะเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร

สถานการณ์ตะวันออกกลาง จะเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดได้ ล่าสุด มีข่าวว่า อิสราเอล อาจถูกบีบให้เจรจาในเรื่องตัวประกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะดีต่อตลาดหุ้น แรงกดดันที่มีต่อเงินเฟ้อจะลดลง แต่จะเป็นลบต่อราคาน้ำมัน (เราแนะนำให้เลี่ยงหุ้นน้ำมันในช่วงนี้ออกไปก่อน)

วันนี้ ประชุม ครม. จับตารัฐมนตรีที่ได้รับตำแหน่งใหม่ (คลัง และท่องเที่ยว) น่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย คาดว่าจะมีการพูดถึงนโยบายของกระทรวงด้วย เรื่องที่มีผล่อตลาดหุ้น จะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการคลังที่จริงจัง (Digital Wallet) และนโยบายด้านท่องเที่ยว สานต่อจากที่นายกฯ ไปพูดในหลายๆที่ หุ้นที่เกี่ยวข้อง คือ หุ้นค้าปลีก-ค้าส่ง และ หุ้นที่อิงการท่องเที่ยว

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ปรับลด GDP ปีนี้(2567) จาก 2.8% เหลือ 2.4% แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ(ไทย) ที่ค่อนข้างช้า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการแจกเงิน(Digital Wallet) ช้ากว่าประมาณการเดิม การประมาณการ GDP ที่ลดลง (ธปท. ให้ไว้ตอนนี้ 2.6%) ทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในมุมของนักลงทุนต่างประเทศลดลง

ตัวเลขส่งออก ในภาคอุตสาหรรม ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของตัวเลขส่งออก มีการส่งออกที่ลดลง ทั้งรถยนต์+อีเล็คทรอนิคส์+ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกหลักๆ ของเราชะลอตัว (เรากังวล) ขณะที่ภาคเกษตร เห็นผลกระทบจากภาวะ El Nino(น้ำตาลทราย+ผลไม้) แต่สินค้า 3 ตัว คือ อาหารสัต์เลี้ยง(ITC, AAI) ยางพารา(NER, STA, STGT) ออกมาค่อนข้างดี

วันนี้ ADVAC มีกำหนดส่งงบไตรมาส 1 ทาง DAOL ประเมินกำไรปกติไว้ที่ 6.6 พันล้านบาท (+3% yoy) ขณะที่กำไรสุทธิจาก Bloomberg Survey อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท +6.8% yoy +3.1% qoq

Event สำคัญๆ สัปดาห์นี้ ตัวเลข PMI จีน(30 พ.ค.) (คาด 50.3 เดือนก่อน 50.8) รายงานเศรษฐกิจเดือน มี.ค.โดย ธปท(30 พ.ค.) GDP ของกลุ่มอียู (30 พ.ค.) (0.18% qoq ไตรมาสก่อน 0.0%)

ด้านกลยุทธ์ มองตลาดจะแกว่งกรอบแคบ และมีโอกาสที่จะปิดลดลงเล็กน้อยก่อนเข้าวันหยุดของไทย กลยุทธ์ลงทุน ยังเป็นขายทำกำไร ขณะที่ผู้รอซื้อ จังหวะที่ดีของตลาด อาจเป็นหลังทราบผลประชุม FOMC

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.16% มูลค่าซื้อขาย 556.81 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.32% มูลค่าซื้อขาย 276.97 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 28.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.87% มูลค่าซื้อขาย 268.58 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 136.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 179.87 ล้านบาท
JAS อยู่ที่ 3.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ +5.00% มูลค่าซื้อขาย 179.01 ล้านบาท