ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เผยผลการดำเนินงานของ บจ. mai งวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิรวม 4,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.66% กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มทรัพยากร กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น FSMART แชมป์กำไรสูงสุด
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai 148 บริษัท นำส่งผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก ของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 พบว่า บจ. 104 บริษัท มีกำไรสุทธิ คิดเป็น 70% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด โดยมีกำไรสุทธิรวม 4,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยอดขายรวมอยู่ที่ 126,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.10%
แม้ว่า อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยจาก 22.21% มาอยู่ที่ 21.04% เนื่องจากต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 15.82% มาอยู่ที่ 99,985 ล้านบาท
ทั้งนี้ บจ. ที่ส่งผลการดำเนินงาน 148 บริษัท คิดเป็น 94% จากทั้งหมด 157 บริษัท เนื่องจากไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด
“ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมียอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้า แม้ว่า บจ.ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการขายสูงขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม บจ. สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้น 51.66%” นายประพันธ์ กล่าว
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มทรัพยากร ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพการแข่งขันสูง
ขณะที่ ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ทำกำไรได้สูงสุด 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เมื่อพิจารณาฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 261,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.45% จากสิ้นปี 2560 ในขณะที่โครงสร้างเงินทุนรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.10 เท่า เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้วเล็กน้อย
ในไตรมาส 3/2561 บจ. มียอดขายรวม 43,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.01% ต้นทุนรวม 34,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.04% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ลดลง 1.44% มาอยู่ที่ 20.43% ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.29% จากไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า
ดัชนี mai เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 ปิดที่ระดับ 399.73 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 263,657 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,324 ล้านบาทต่อวัน