CGS คาดหุ้นไทยวันนี้ ขึ้นในกรอบจำกัด 1,350-1,385 จุด

HoonSmart.com >> บล.ซีจีเอส มองหุ้นไทยขึ้นในกรอบจำกัด 1,350-1,385 จุด เกาะติดงบบจ. 

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย ) หรือ CGSI โดย Trend Spotter คาดการณ์หุ้นไทยเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) SET กลับมายืนเหนือ 1360 จุดได้อีกครั้ง หรือที่กรอบ -2 S.D. ของ FWD P/E, FWD P/BV เราเชื่อว่าหุ้นจะปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัดที่บริเวณ 1385 จุด และ ให้กรอบ 1350-1385 จุด

หากจะกลับมาทดสอบ 1400 จุด และ กลับไปยืนได้อีกครั้ง เราเชื่อว่าต้องเป็น catalyst อื่นๆ อาทิ พัฒนาการทางการเมืองหรือนโยบายสนับสนุน ๆ ใหม่

ด้านเงินดิจิทัล นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล แถลง ครม.รับหลักการเงินดิจิทัลหมื่นบาท / ด้านรัฐมนตรีช่วยคลัง ยืนยัน ธ.ก.ส.สภาพคล่องสูง พร้อม ย้ำ เงินดิจิทัลหมื่นบาทเข้ากระเป๋า ไตรมาส 4

สำหรับสิ่งที่นักลงทุนต้องติดตาม นั่นคือ PCE (ตลาดคาด +2.6% yoy) และ งบบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Tech

หุ้นแนะนำ

SPALI : น่าจะทำกำไรสุทธิลดลง 67.7% qoq และ 39.6% yoy เป็น 652.1 ล้านบาทใน 1Q24

เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต qoq ใน 2Q24 จากการเพิ่มขึ้นของยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม, GPM จากการขายอสังหาฯ และส่วนแบ่งกำไรจาก JV ในออสเตรเลีย

BDMS : คาดว่า BDMS จะทำกำไรสุทธิ 3.9 พันล้านบาท (+13% yoy, -1% qoq) ใน 1Q24

BDMS มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลใหม่ 6 แห่งในระหว่างปี 2024-27 ซึ่งจะทำให้จำนวนเตียงผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 736 เตียงหรือเพิ่มขึ้นอีก 8.5%

Sentiment บวกจากงบ BH เช้านี้ที่ประกาศออกมา ดีกว่าเราและตลาดคาด

SCGP งบดีกว่าคาด แต่เราแนะนำเป็นจังหวะเริ่ม Take profit เพราะอะไร ?

EPS ใน 1Q24 เติบโตจากปริมาณขายที่แข็งแกร่งกว่าคาดของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และ EBITDA margin ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเยื่อและกระดาษ

หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน SCGP จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ1,677 ล้านบาท (+34.5% qoq) โดยมีแรงหนุนจากธุรกิจในประเทศไทย (รายได้ +18% qoq)

บริษัทลูกในอินโดนีเซียหรือ Fajar ยังคงมี EBITDA margin ติดลบและขาดทุนสุทธิใน 1Q24 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ (ยอดส่งออกไปจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ)

เราปรับประมาณการ EPS ในปี 2024-26 ขึ้น 5.2-7.8% หลังปรับเพิ่มสมมติฐาน EBITDA margin และ ประมาณการ EBITDA ที่สูงขึ้นยังส่งผลให้ราคาเป้าหมายตามวิธี DCF เพิ่มขึ้นเป็น 34 บาท (WACC: 8.47%)

อย่างไรก็ตาม เรายังแนะนำ “ถือ” แม้ว่า SCGP จะมีผลประกอบการจะแข็งแกร่งใน 1Q24 เพราะมองว่ามีความเสี่ยงที่ต้นทุน OCC ในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น (อุปทานตึงตัว) ส่วนธุรกิจเยื่อและกระดาษที่เป็น outperformer ใน 1Q24 อาจมี EBITDA ลดลง qoq เนื่องจากบริษัทเลื่อนกำหนดปิดซ่อมบำรุงโรงงานจาก 1Q24 เป็น 2Q24

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

#Macro&WealthResearch
#CGSInternational