“คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้มหุ้นทรงตัว แนะ ITC-WHA

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นหุ้นวันนี้ดัชนีทรงตัว กรอบแนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,367-1,372 จุด รอตัวเลข US PCE มี.ค. , GDP ไตรมาส 1/67 กำไรบจ.ไทย แนะทยอยซื้อกลุ่มอาหาร อาหาร CPF,TU,ITC ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT, BJC ท่องเที่ยว ERW,CENTEL เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ ITC, WHA

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,350 แนวต้าน 1,367 – 1,372 รอตัวเลข US PCE มี.ค. และรายงานกำไร Q1/67 บจ.ไทย แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT, BJC ท่องเที่ยว ERW,CENTEL เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE อาหาร CPF,TU,ITC ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.11%, S&P500 +0.20%, Nasdaq +0.10% ปิดทรงตัว หลัง US Bond Yield 2 ปี, 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.95%, 4.67% ตามลำดับ กดดันกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ กอปรราคาหุ้นหลังปิดตลาด Meta Platform -15.3% หลังรายงานกำไร Q1/67 ต่ำกว่าคาด สาเหตุจากงบลงทุนด้าน AI สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้น MSFT -1.9%, Alphabet -3% ก่อนจะรายงานงบค่ำวันนี้

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US GDP Q1/67 คาด +2.5% และ Q4/66 +3.4% QoQ และวันศุกร์ US PCE มี.ค. คาด 2.6% และ ก.พ. 2.5% YoY เพือประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย.

ด้านตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มธนาคาร -1.2% หลัง ธ.ฮันเดิลสบังเกนของสวีเดน -12.1% รับกำไร Q1/67 ต่ำคาด และธนาคาร SEB -3.7% หลังรายได้ดอกเบี้ยลดลง แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง ASM Int.ผู้จำหน่ายอุปกรณ์แผ่นเวเฟอร์ มีมุมมองบวกต่อรายได้ใน Q2 โดยภาพรวม LSEG เผย 34 บจ. ใน Stoxx600 ที่รายงานงบ Q1/67 แล้ว 61.8% กำไรดีกว่าคาดสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 54 %

ราคาน้ำมันดิบ WTI มิ.ย. ลดลง 0.55 ดอลลาร์ อยู่ที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent มิ.ย. ลดลง 0.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 88.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังความเสี่ยงในตะวันออกกลางลดลง กอปรรายงาน PMI รวมภาคผลิตและบริการสหรัฐ เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 50.9 และ มี.ค. 52.1 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 6.3 ล้านบาร์เรล สวนทางคาดเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล

ด้านทองคำ Comex Gold มิ.ย. ลดลง 3.70 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,338.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังความเสี่ยงในตะวันออกกลางลดลง และรอตัวเลข US PCE มี.ค. ในวันศุกร์นี้

ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 37.106 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.644 %

ดัชนี BDI วานนี้ -30 จุด อยู่ที่ 1,774

BitCoin เช้านี้ -3.40% อยู่ที่ 64,488.5 ดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.90 บาท) แนวโน้มกำไร 1Q67 ฟื้นตัวได้ YoY ตามตัวเลขการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง โดยลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าหลังสต๊อกสินค้าเก่าเริ่มหมด ประกอบกับต้นทุนปลาทูน่าที่ลดลงและสัดส่วน product mix ที่เป็นกลุ่มสินค้า premium มากขึ้นส่งผลบวกต่ออัตรากำไร

ส่วนภาพรวมปี 67 แรงกดดันจากระดับ Inventory ของลูกค้าที่อยู่ในระดับสูงหมดไปทำให้กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ และได้ประโยชน์ในช่วงเงินบาทอ่อนค่า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท +28%YoY และ 3.3 พันล้านบาท +13%YoY

หุ้น WHA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท) ประเมินผลการดำเนินงาน 1Q67 Wha คาดแนวโน้ม 1Q67F จะโดดเด่นอย่างมาก โดยทุกธุรกิจมีการเติบโตแข็งแกร่ง ธุรกิจโลจิสติกส์มีการลงนามสัญญาใหม่ของโรงงานให้เช่า 30,000 ตร.ม. และทำสัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงอีก 30,000 ตร.ม. กระจายในหลายกลุ่มธุรกิจทั้งการผลิต และโลจิสติกส์ จากเป้าหมายสัญญาใหม่ทั้งปี 200,000 ตร.ม. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม คาดยอดขายที่ดินอยู่ที่ 630 ไร่ (-14% QoQ, +30% YoY) (ไทย 540 ไร่ เวียดนาม 90 ไร่) คิดเป็น 28% ของเป้าหมายทั้งปี 2,275 ไร่

ส่วนยอดโอนที่ดินคาดว่าจะอยู่ที่ 600 ไร่ (+114%YoY) (ไทย 330 ไร่ เวียดนาม 270 ไร่) ซึ่ง Backlog ณ สิ้น 1Q67F มีราว 1,100 ไร่ และ ธุรกิจสาธารณูปโภค คาดปริมาณขายน้ำ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร (+12%YoY) โดยเติบโตจากประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ (+15% QoQ และ YoY ) ส่วน ด้านไฟฟ้า มีการเซ็นต์ PPA โซลาร์หลังคา 59MWe ซึ่งจะทำให้ PPA รวมเป็น 917MWe