ดาวโจนส์ปิดลบ 89 จุด จับตาความคืบหน้าข้อตกลงการค้า

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 89 จุด ส่วน ดัชนี S&P500 บวกเล็กน้อย จับตาความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าและรอข้อมูลเศรษฐกิจ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ปิดที่ 42,051.06 จุด ลดลง 89.37 จุด หรือ -0.21% ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวกเล็กน้อย ขณะที่จับตาความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าและรอข้อมูลเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,892.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด, +0.10%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,146.81 จุด เพิ่มขึ้น 136.72 จุด, +0.72%

การพุ่งขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีช่วยหนุนให้ Nasdaq ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้น AMD และ Nvidia เพิ่มขึ้นกว่า 4% หุ้น Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 3% และหุ้น Super Micro Computer พุ่งขึ้นกว่า 15%

อย่างไรก็ตามดัชนีหลักเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางตลอดทั้งวัน โดยหุ้นที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจบางตัวปรับตัวลดลงหลังจากที่พุ่งขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ ดัชนี Russell 2000 หุ้นขนาดเล็กปรับตัวลดลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.529% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นสูงกว่า 4.5% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

ความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่สหรัฐฯ และจีนได้ลดภาษีสินค้าหลายประเภทเป็นการชั่วคราว โดยสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าจากจีนลงเหลือ 30% เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงเหลือ 10%

ข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกทำให้บรรดานักลงทุนมีความหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะนำไปสู่ข้อตกลงการค้าที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม จีนและสหรัฐฯ ยังไม่ได้ตกลงเงื่อนไขที่ชัดเจนสำหรับข้อตกลงดังกล่าว และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในสัปดาห์นี้ว่าข้อตกลงขั้นสุดท้ายจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้

นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่า เขาอาจสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสีภายในปลายสัปดาห์นี้ รวมทั้งจับตาความคืบหน้าด้านการค้า ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าตลาดจะยากปรับขึ้นจากจุดนี้หากไม่มีความคืบหน้าที่สำคัญในการเจรจากับพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางเยือนตะวันออกกลาง ซึ่งการเยือนครั้งนี้มีการทำข้อตกลงด้าน AI มากมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา
นักลงทุนยังรอการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-อังกฤษ และสหรัฐฯ-จีน ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกลงได้บ้าง ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่น่าผิดหวังสร้างแรงกดดันตลาด

ดัชนี STOXX 600 ปรับลงครั้งแรกในรอบ 5 วันจากการทำกำไร นักลงทุนในยุโรปประเมินข่าวภาษีศุลกากรระดับโลกด้วยความไม่มั่นใจมากกว่านักลงทุนในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามดัชนี STOXX 600 ยังคงอยู่เหนือระดับต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรสากลกับคู่ค้าทางการค้า ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นทั่วโลก
Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนี STOXX 600 ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จาก 520 จุด เป็น 570 จุด หลังจากมีการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ฉุดตลาดมากที่สุด โดยลดลง 1.5% หุ้นAlcon ร่วงลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 หลังจากผลประกอบการไตรมาสต่ำกว่าที่คาดไว้ และปรับคาดการณ์ปี 2025 เพื่อสะท้อนผลกระทบของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

หุ้นส่วนใหญ่ปิดตลาดในแดนลบ แม้กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.4% และซื้อขายในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2010

นักลงทุนจับตาผลประกอบการอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินถึงการวางแผนจะเดินหน้าของบริษัทในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

หุ้น Alstom ผู้ผลิตตู้รถไฟร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดของ STOXX 600 โดยลดลงมากกว่า 17% หลังจากที่คาดการณ์สำหรับปีปัจจุบันทำให้บรรดานักลงทุนผิดหวัง และส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรม

หุ้น TUI บริษัทด้านการเดินทางรายใหญ่ที่สุดในยุโรป ร่วงลงประมาณ 11% หลังเปิดเผยการจองท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนลดลง 1%

หุ้น Burberry แบรนด์หรูพุ่งขึ้น 17% หลังรายงานกำไรทั้งปีสูงกว่าคาด และเตรียมปรับลดจำนวนพนักงาน 1,700 คน

นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และตัวเลขการจ้างงานของยูโรโซนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 543.88 จุด ลดลง 1.29 จุด, -0.24%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,585.01 จุด ลดลง 17.91 จุด, -0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,836.79 จุด ลดลง 37.04 จุด, -0.47%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,527.01 จุด ลดลง 111.55 จุด, -0.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 63.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 66.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–