HoonSmart.com >> ดาวโจนส์ร่วง 269 จุด เงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ขณะที่ S&P ปรับตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 13 พ.ค.2568 ปิดที่ 42,140.43 จุด ลดลง 269.67 จุด หรือ -0.64% จากการร่วงลงของหุ้น UnitedHealth ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้น จากการรายงานเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทำให้นักลงทุนมีมุมมองทางบวกมากขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และจีนประกาศสงบศึกการค้าเมื่อวันจันทร์
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,886.55 จุด เพิ่มขึ้น 42.36 จุด, +0.72%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,010.08 จุด เพิ่มขึ้น 301.74 จุด, +1.61%
ดัชนีดาวโจนส์ลดลงจากการร่วงลงกือบ 18%ของหุ้น UnitedHealth Group บริษัทประกันภัยชั้นนำหลังจากระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปีบัญชี 2025 และซีอีโอของบริษัทก็ลาออก
สำหรับดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกหลังการรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวชี้วัดต้นทุนสินค้าและบริการทั่วทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P 500 กลับมาอยู่ในแดนบวกของปี 2025 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หุ้นร่วงลงอย่างหนักหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยภาษีศุลกากรแบบ reciprocal tariff ทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เมษายน
ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) เดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.4% จากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.2%. ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องที่นัก
เศรษฐศาสตร์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะมองเห็นผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งบางส่วนถูกยกเลิกหรือระงับไปแล้ว แต่ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงสร้างแรงกดดันเงินดอลลาร์ เนื่องจากเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
หุ้น Nvidia พุ่งขึ้นกว่า 6% หลังจากซีอีโอ เจนเซ่น หวง กล่าวว่าบริษัทจะขายชิปปัญญาประดิษฐ์(AI)รุ่นใหม่กว่า 18,000 ชิ้นให้กับบริษัท Humain ของซาอุดีอาระเบีย
ตลาดยังคงคึกคักต่อเนื่องหลังจากที่สหรัฐฯ และจีนประกาศลดความตึงเครียดด้านการค้าลงเมื่อวันจันทร์ โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะลดอัตราภาษีลงอย่างมากเป็นเวลา 90 วัน ในระหว่างที่กำลังดำเนินการเจรจาข้อตกลง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการพุ่งขึ้นของหุ้น Bayer และหุ้นพลังงานสะอาดช่วยรักษาแรงปรับขึ้นของตลาดได้ต่อเนื่องหลังจากสหรัฐและจีนประกาศสงบศึกทางการค้า
ดัชนี STOXX 600 ซื้อขายในระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 545.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด, +0.12%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,602.92 จุด ลดลง 2.06 จุด, -0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,873.83 จุด เพิ่มขึ้น 23.73 จุด, +0.30%ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,638.56 จุด เพิ่มขึ้น 72.02 จุด, +0.31%
นักลงทุนกำลังรอข้อมูลราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือนเมษายนในช่วงบ่าย เพื่อประเมินผลกระทบของภาษีที่สูงขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของเขตยูโรและตัวเลข GDP ไตรมาสแรกจะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้
หุ้น Bayer พุ่งขึ้น 9.6% หลังจากรายงานกำไรที่ปรับแล้วในไตรมาสแรกลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากตัวเลขใบสั่งยาใหม่สำหรับยาใหม่ที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยการลดลงของธุรกิจถั่วเหลืองและเมล็ดฝ้าย
หุ้นบริษัทพลังงานหมุนเวียนในยุโรปทั้ง Vestas และ Orsted พุ่งขึ้น 11.8% และ 4.6% ตามลำดับ โดยเทรดเดอร์กล่าวว่าร่างข้อเสนอของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ต้องการยกเลิกมาตรการด้านสภาพอากาศที่สร้างผลกำไรมหาศาลบางส่วนนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดไว้
บริษัทรับประกันภัยต่อรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี Munich Re และ Hannover Re ร่วงลง 3.6% และ 3.3% ตามลำดับ หลังจากที่ทั้งสองบริษัทรายงานกำไรลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสแรก หลังจากมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าในลอสแองเจลิสรวมกัน 1.7 พันล้านยูโร (1.9 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือน กรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.57% ปิดที่ 66.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

