หุ้นดิ่ง 2% ต่างชาติถล่ม 6 พันลบ. แจกปันผลซ้ำเติมปัจจัยลบ

HoonSmart.com>>หุ้นไทยร่วงแรงเกินคาด 30 จุด หนักสุดภูมิภาค ปัจจัยลบดาหน้ากดดัน ผวาสงครามตะวันออกกลางลาม-เฟดไม่เร่งลดดอกเบี้ย เงินบาทอ่อนสุด 6 เดือน กดดันฟันด์โฟลว์ หุ้นธนาคารหลายตัวขึ้น XD มีผลต่อดัชนีฯราว 3.85 จุด ต่างชาติพลิกกลับมาขายหนักรอบใหม่ 6,395 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนไทยซื้อกลับ 6,802 ล้านบาท บล.ซีจีเอสคาด Geopolitics กดดันไม่เกิน 10-20 จุด

17 เม.ย.2567 ตลาดหุ้นไทยเปิดซื้อขายวันแรกหลังจากหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ (12-16 เม.ย.67) ดัชนีดิ่งต่ำสุดที่ 1,363.44 จุด ก่อนปิดที่ 1,366.94 จุด ลดลง 29.44 จุด หรือ -2.11% มูลค่าซื้อขาย 62,382.11 ล้านบาท ทั้งนี้หุ้นไทยร่วงลงแรงสุดเทียบภูมิภาค ตลาดญี่ปุ่น -1.32%  เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,395 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยซื้อกลับ 6,802  ล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นจีน  SHANGHAI พุ่งแรง 2.14%

ด้านค่าเงินบาทปิดที่ 36.78 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนที่ 36.89 เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ซึ่งอ่อนค่าค่อนข้างมาก ทั้งเงินหยวน และรูปี โดยผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า จะเข้าแทรกแซงเพื่อควบคุมความผันผวนของค่าเงินวอนหากจำเป็น  ส่วนบอนด์ยีลด์ 10 ปี สูงกว่า 4.6%

ราคาทองคำยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ สมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคา 8 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 450 บาท ทองคำแท่งรับซื้อที่  41,550 บาท ขายออก 41,650 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 40,795.56 บาท และขายออก 42,150 บาท

นายกิตติ บัวบึง ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจากสงครามตะวันออกกลางสร้างความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้า และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่เร่งรีบลดอัตราดอกเบี้ย  ขณะนี้น้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเลื่อนไปเป็นเดือนก.ย.แล้ว จากเดิมมิ.ย.ขยับไป ก.ค.รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 37 บาท กดดัน Fund Flow อีกทั้งวันนี้มีหุ้นในกลุ่มธนาคารหลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯราว 3.85 จุด

อย่างไรก็ดี สงครามทำให้มีการย้ายฐานการผลิต และส่งออกได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งพยุงได้เล็กน้อย แม้ราคาน้ำมันเริ่มย่อตัว แต่สถานการณ์สงคราม ทำให้ราคายังยืนในระดับสูงอยู่ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกได้เล็กน้อย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) ตลาดยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,370 จุด

ด้านบล.ซีจีเอส (CGSI) มองประเด็นอิสราเอล-อิหร่าน  และเฟดลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด มีผลต่อ SET Index ไม่เกิน 10-20 จุด แรงขายที่กดดันตลาดเกิดจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยใหม่อาจจะเข้ามากดดันหุ้นไทยในระยะสั้น แต่ในภาพรวมแล้วสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ณ ปัจจุบันให้ภาพความผันผวนมากกว่าการปรับตัวลดลง มองกรอบดัชนี 1380-1410 จุด