LPN ไตรมาสแรกพลิกกำไร 20 ล้าน ดีขึ้นจาก Q4/67 ขาดทุน 115 ลบ.

HoonSmart.com>>”แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์” (LPN) พลิกโชว์กำไรไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 20 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 4/67 ขาดทุนหนัก 115 ล้านบาท สะท้อนการฟื้นตัวของผลประกอบการในระยะสั้น รายได้รวม 1,532.61 ล้านบาท บริหารจัดการค่าใช้จ่ายลดลง แต่เทียบไตรมาส 1/67 กำไรวูบหนัก 75.56% เหตุรับรู้รายได้ที่กระจุกตัวจากการส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนในช่วงปลายปี

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 20.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท ลดลง 75.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 83.55 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรลดลงเมื่อเทียบไตรมาส 1 ปี 2567 แต่เมื่อเทียบไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 115.55 ล้านบาท บริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของผลประกอบการในระยะสั้น

รายได้รวมในไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 1,532.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,413.22 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 8.45% แต่ลดลงจาก 2,033.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือลดลง 24.64% การลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากลักษณะการรับรู้รายได้ที่กระจุกตัวจากการส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนในช่วงปลายปี

รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 895.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.96% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 36.00% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการอยู่ที่ 88.34 ล้านบาท ลดลง 8.15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2.57% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าออกไปในช่วงปี 2567 เพิ่มเสริมสภาพคล่อง ขณะที่รายได้จากการรับจ้างบริหารจัดการอยู่ที่ 545.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.71% จากไตรมาสก่อนหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 21.39% ลดลงจาก 25.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจาก 14.27% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นสะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น แม้บริษัทยังคงใช้นโยบายด้านราคาที่แข่งขันได้เพื่อเร่งระบายสินค้าคงเหลือ

ด้านค่าใช้จ่ายขายและบริหารรวมอยู่ที่ 262.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 231.14 ล้านบาท หรือ 13.38% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจาก 366.02 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้าหรือลดลง 28.40% โดยการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายขายที่เพิ่มขึ้น 53.09% ขณะที่ค่าใช้จ่ายบริหารลดลง 4.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การลดลงของค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าสะท้อนถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากมีการใช้จ่ายสูงในช่วงปลายปี

บริษัทมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 5.88 ล้านบาท ลดลงจาก 12.82 ล้านบาท หรือ 54.11% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจาก 8.28 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า หรือลดลง 28.96% ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของผลประกอบการในบริษัทร่วม

กำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) อยู่ที่ 62.70 ล้านบาท ลดลงจาก 125.18 ล้านบาท หรือ 49.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นจากการขาดทุน EBIT 82.14 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 67.96 ล้านบาท ลดลงจาก 131.13 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 48.17% แต่พลิกกลับจากการขาดทุน EBITDA 77.03 ล้านบาทในไตรมาสก่อน

อัตรากำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1.43% ลดลงจาก 6.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิส่วนของบริษัทต่อรายได้รวมอยู่ที่ 1.33% ลดลงจาก 5.91% แต่ทั้งสองตัวชี้วัดฟื้นตัวจากการขาดทุนสุทธิ 5.52% และ 5.68% ตามลำดับในไตรมาสก่อนหน้า

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–