ดาวโจนส์ปิดบวก 63 จุด พาวเวลล์เตือนดอกเบี้ยสูงนาน

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 63 จุด ด้าน ดัชนี S&P500, Nasdaq ลดลง หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เตือนอาจคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นแตะ 4.66% ส่วนอายุ 2 ปียืนเหนือระดับ 5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ลดลง 5 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

      
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 16เมษายน 2567 ปิดที่ 37,798.97 จุด เพิ่มขึ้น 63.86 จุดหรือ +0.17% หลังจากที่ลดลงติดต่อกัน 6 วัน แต่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เตือนว่าอาจจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ขณะที่บริษัทจดทะเบียนทยอยรายงานผลการดำเนินงาน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,051.41 จุด ลดลง 10.41 จุด, -0.21%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,865.25 จุด ลดลง 19.77 จุด, -0.12%

หุ้นผันผวนในการซื้อขายช่วงบ่ายหลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจปัจจุบัน ยังต้องใช้อยู่จากราคาที่ยังไม่ลดลง

“ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน แต่ไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมในปีนี้ในการกลับสู่เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเรา” นายพาวเวลล์กล่าวในการอภิปราย

“ข้อมูลล่าสุดไม่ได้ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นอย่างชัดเจน แต่กลับบ่งชี้ว่าอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ในการที่จะเชื่อมั่นได้ ดังนั้น เราคิดว่านโยบายเหมาะสมกับการรับมือกับความเสี่ยงที่เราเผชิญ”

อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจน์กลับมาบวกด้วยการปรับขึ้นกว่า 5% ของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ จากรายได้ไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาด

นักลงทุนยังย่อยผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ที่รายงานเข้ามามากขึ้น

หุ้นมอร์แกน สแตนเลย์บวก 2.5%จากผลการดำเนินงานรายไตรมาสที่ดีกว่าคาด ส่วนหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาลดลง 3.5% หลังแจ้งรายได้และกำไรลดลง
      
หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสันลดลง 2% จากรายได้รายไตรมาสที่ต่ำกว่าคาด
      
ผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้ตลาดมีมุมมองทางบวกในช่วงแรกของฤดูกาลผลประกอบการ ขณะที่มีบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 ไม่ถึง 10% ที่รายงานผลการดำเนินงาน ซึ่งราว 4 ใน 5 ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์
      
แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้นักลงทุนระมัดระวัง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นหลังการให้ความเห็นของนายพาวเวลล์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.66% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นมาที่เหนือระดับ 5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
      
ควินซี ครอสบี หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ LPL Financial กล่าวว่า ความเห็นของนายพาวเวลล์ออกมาในทิศทางนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตลาด แต่ตลาดรับรู้สารนี้แล้ว
      
นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ดัชนีหลักลดลงมากสุดภายในวันเดียวในรอบก่วา 9 เดือน จากการนำการปรับลงของกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง อันเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
      
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนที่สูงขึ้นก็มีส่วนกดดันตลาด
      
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง fell 3.1% เป็นการปรับลงภายในวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม เนื่องจากราคาทองแดงลดลงหลังตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนต่ำกว่าคาด และจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
      
กลุ่มธนาคารลดลง 2.6% เป็นการปรับลงภายในวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นผลจากการร่วงลง 3% ของหุ้น HSBC ในอังกฤษและ หุ้น BNP Paribas ธนาคารใหญ่ของยูโรโซน
      
กลุ่มรถยนต์ กลุ่มประกันภัย และกลุ่มพลังงานต่างลดลงราว 2%
      
แม้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นความเสี่ยงที่มากขึ้น แต่นักลงทุนคาดว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะลดลง โดยมอร์แน สแตนเลย์ และดอยช์แบงก์คาดว่า ธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB) จะลดดอเบี้ย 0.75% ในปีนี้
      
ความสนใจของนักลงทุนมุ่งไปที่การรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ซึ่งข้อมูลจาก LSEG คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอาจลดลง 12.1% ในไตรมาสแรกจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 498.21 จุด ลดลง 7.72 จุด, -1.53% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,820.36 จุด ลดลง 145.17 จุด, -1.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,932.61 จุด ลดลง 112.50 จุด, -1.40%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,766.23 จุด ลดลง 260.35 จุด, -1.44%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 85.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.08% ปิด 90.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล