ดาวโจนส์ปิดลบ 2 จุด Nasdaq บวก หุ้นเทคโนโลยีหนุน

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ ปิดลบเล็กน้อย สวนทาง Nasdaq เพิ่มขึ้นกว่า 270 จุด ผลจากหุ้น 7 นางฟ้าหนุน ฝั่งยุโรปปิดลบ ดัชนีSTOXX 600 ลงไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือนจากการ ECB ตรึงดอกเบี้ยสูงเป็นประวัติการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง 1.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11เมษายน  2567  ปิดที่  38,459.08 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ -0.01%  ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น จากการปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นใหญ่ 7 ตัวที่รู้จักกันในชื่อ Magnificent 7 ด้วยแรงช้อนซื้อของนักลงทุนหลังจากที่ลดลงช่วงต้นสัปดาห์ และจากการรายงานดัชนี PPI ที่ชะลอตัว
-ดัชนี S&P500 ปิดที่  5,199.06 จุด เพิ่มขึ้น 38.42 จุด, +0.74%
-ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,442.20 จุด เพิ่มขึ้น 271.84 จุด, +1.68%
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซื้อขายที่ประมาณ 4.56% ทรงตัวหลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในวันพุธ
-หุ้นแอปเปิ้ลเพิ่มขึ้น 4.3% และเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในการหนุนตลาดให้สูงขึ้น ขณะที่หุ้นNvidiaตามมาไม่ห่างนัก บวก 4.1% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 1.7% และทุบสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้ในปี 2021
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ในเดือนมีนาคมที่ต่ำกว่าคาด หลังจากการเทขายเมื่อวันพุธจากรายงานราคาผู้บริโภคที่ร้อนแรง
กระทรวงแรงงานรายงานดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือนมีนาคมว่า ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.2% ที่นักวิเคราะห์คาด  และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 2.3% ที่นักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.2% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด
คริส ลาร์กิน กรรมการผู้จัดการฝ่ายการค้าและการลงทุนของ E-Trade จาก มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ดัชนีPPI ไม่ได้ช่วยบรรเทาความผิดหวังเมื่อวันพุธจากอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคที่เผยแพร่ในวันพุธ แต่คลายความกังวลของนักลงทุน อย่างน้อยในระยะสั้น
ข้อมูลเศรษฐกิจอีกชุดหนึ่งพบว่า  จำนวนคนงานที่ขอรับสวัสดิการว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน้อยลง เป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดงานยังคงแข็งแกร่งแม้อัตราดอกเบี้ยสูงก็ตาม
กระทรวงแรงงานรายงาน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่า 215,000 ที่นักวิเคราะห์คาด
ขณะเดียวกัน นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์กกล่าวในงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในระยะเวลาอันใกล้นี้
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน โดยธนาคารรายใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานผลประกอบการในเช้าวันศุกร์นี้ (12 เม.ย.) ตามเวลาสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ดัชนีSTOXX 600 ลงไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือน จากการร่วงลงของกลุ่มธนาคารหลังธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ตามคาด และจากการร่วงลงของหุ้นดอยซ์ เทเลคอมหลังขึ้นเครื่องหมาย ECB ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่า อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆนี้
กลุ่มธนาคารลดลง2.4% เป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 8 เดือน
หุ้นกลุ่มเทเลคอมร่วงลง 2.1% หลังหุ้นดอยซ์ เทเลคอม ร่วงลง 6.2% หลังขึ้นเครื่องหมาย XD
นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นยังกดดันตลาดยุโรปด้วย เพราะนักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงอีกนาน
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้น 0.5%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 504.55 จุด ลดลง 2.04 จุด, -0.40%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,923.80 จุด ลดลง 37.41 จุด, -0.47%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,023.74 จุด ลดลง 21.64 จุด, -0.27%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่  17,954.48 จุด ลดลง 142.82 จุด, -0.79%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 85.02   ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 74 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 89.74  ดอลลาร์ต่อบาร์เรล