“คิงส์ฟอร์ด” คาดหุ้นปรับฐาน เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เช้านี้มีโอกาสปรับฐาน หลังเงินเฟ้อเดือนมี.ค.สูงเกินคาด เฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ Fund Flow ชะลอตัว โดยวางแนวรับดัชนีที่ 1,390 – 1,395 จุด แนวต้าน 1,410 – 1,415 จุด หุ้นแนะนำ SAPPE-AMATA

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เช้านี้มีโอกาสปรับฐาน หลังเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. ส่งผลให้ Fund Flow ชะลอตัว โดยวางแนวรับดัชนีที่ 1,390 – 1,395 จุด แนวต้าน 1,410 – 1,415 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,BJC,TNP ได้ประโยชน์จากดิจิทัล วอลเล็ต กลุ่มท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,ERW,CENTEL กลุ่มเครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,HTC,TIPCO ปัจจัยหนุนจากฤดูร้อน

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง DJIA -1.09%, S&P500 -0.95%, Nasdaq -0.84% หลังรายงาน US CPI มี.ค. อยู่ที่ 3.5% และคาด 3.4%และ ก.พ. 3.2% YoY และ Core CPI มี.ค. อยู่ที่ 3.8% และ คาด 3.7% และ ก.พ. 3.8% YoY เป็นผลจากราคาพลังงาน +1.1% และราคาที่พักอาศัย (คิดเป็นสัดส่วน 1/3 ของเงินเฟ้อสหรัฐ) +5.7% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐยังไม่มีสัญญาณลดลง ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 79% เฟดจะยังคงดอกเบี้ยที่ 5.25 – 5.50% ในการประชุม มิ.ย. และมีโอกาส 46.1% จะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย.

ค่ำวันนี้ติดตาม US PPI มี.ค. คาด 2.2% และ ก.พ. 1.6% YoY และ มี.ค. คาด 0.3% และ ก.พ. 0.6% MoM

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SAPPE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 105.00 บาท) ผู้บริหารคาดรายได้ใน 1Q67 เติบโตได้ราว 20-25%YoY หนุนจากรายได้ลูกค้าตะวันออกกลางเนื่องจากเข้าสู่ช่วงรอมฎอน ส่วนการเติบโตในปี 2567 โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 20-25%YoY จากการขยายไลน์ผลิตและแผนออกสินค้าใหม่ ซึ่งตลาดส่งออก (สัดส่วนรายได้ 75%) ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทั้งในยุโรปและอเมริกา ประกอบกับการเริ่มดำเนินการสายการผลิตใหม่ช่วงปลาย 1Q67 เพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 25% หรือ 44,000 ตันต่อปี

ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67 ที 1.27 พันล้านบาท +18%YoY และปี 68 ที่ 1.45 พันล้านบาท +13%YoY ตามลำดับ

หุ้น AMATA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท) สำหรับภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี67 เราคาดว่าจะยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดยในส่วนของ backlog สิ้นปี66 ยังแข็งแกร่งที่ 14,285 ล้านบาท (ไทย 1.2 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเวียดนาม/ คาดจะสามารถทะยอยโอนได้ในปีนี้ราว 50%)

ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิของ AMATA ปี67 ที่ระดับ 2,006 ล้านบาท (+6%YoY) โดยนอกจากการขายที่ดินแล้ว คาดว่ารายได้ฝั่งสาธารณูปโภคจะแรงมีหนุนตามค่าFt และอากาศร้อน นอกจากนี้ AMATA ยังจะมี story จากการ Spinoff AMATA U (กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค/คาดไฟลิ่งปีนี้)