CGS มองหุ้นวันนี้ผันผวน +/- 10 จุด …ลุ้นกนง.ลดดบ.-แถลงเงินดิจิทัล

HoonSmart.com >>  CGS :  Trend Spotter มองหุ้นวันนี้ แกว่งผันผวน 1,400 +/-10 จุด รอประชุมกนง. และ แถลงเงินดิจิทัล แนะหุ้นแบงก์ ได้ประโยชน์ดอกเบี้ย 

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย ) โดย Trend Spotter ประเมิน SET วันนี้ (10 เม.ย.)  คาดแกว่งผันผวน 1400 จุด +/- กว่า 10 จุด รอประชุมกนง. และ แถลงเงินดิจิทัล หลังปรับตัวขึ้นได้ร้อนแรงเมื่อวานจากการเก็งผลของสองประเด็นดังกล่าวรวมถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์และข่าวการดันไทยเป็น Entertainment Complex

หากประเมินจากตัวเลข … ธปท.ควรจะลดดอกเบี้ยเดือนเม.ย. (วันนี้) อิงจาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมี.ค. 2024 ลดลง 0.5% yoy ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% yoy รวมถึง ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำคาด (2023 GDP : +1.9% yoy)

หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ยหากเป็นในกลุ่มค้าปลีกจากการวิเคราะห์มุมมองแบบ bottom-up คือ LPN SPALI, SC, AP, CRC, DOHOME และ GLOBAL โดย Top picks ของเรา คือ CRC ในขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์คือ AP

 CGS ชี้ชะตาลดดอกเบี้ย หรือ ไม่ ? กลยุทธ์เช้านี้ 

แนะนำกลยุทธ์ Tactical play สำหรับ Day traders ซื้อหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ (BBL) พร้อมกับซื้อลงทุน (KKP) แบงก์ขนาดกลาง-เล็ก ที่ได้ประโยชน์จากการ “ลด” อัตราดอกเบี้ยของกนง. หากเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี หากกนง.ตัดสินใจ “คง” อัตราดอกเบี้ย เราเชื่อว่าราคาหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ อาจปรับตัวขึ้นในระยะสั้น และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดลงของดอกเบี้ยจะโดนแรง take profit ซึ่งเรามองว่า KKP เป็นหุ้นโซนล่าง หากโดนขายทำกำไร ราคาหุ้นมี downside risks จำกัด

หุ้นแนะนำ

CRC : เราเชื่อว่า CRC เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมากที่สุด โดยการลดดอกเบี้ยทุก 25 bp จะเพิ่มกำไรสุทธิใน FY24/FY25 สำหรับ CRC 0.7%/1.2% ตามลำดับ

เราแนะนำ “Overweight” กลุ่ม Retail โดย Top pick ของเรา คือ CRC (จากเดิม CPALL)

AP :
เราคาดว่าปีนี้ AP จะมี presales และกำไรสุทธิ ต่ำสุดใน 1Q24 ที่ 9.5 พันล้านบาท และ1.23 พันล้านบาท

เชื่อว่า AP จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน 2Q24 เพราะมีสัดส่วนโครงการระดับกลางถึงไฮ-เอนด์สูง

KCE … ความเสี่ยง-ผลตอบแทนน่าสนใจ

คาดว่า KCE จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ PCB ในตลาดโลกในปี 2024 นำโดยความต้องการแอปพลิเคชั่นอย่างเช่น Server, Smartphone และ PC

กรณีของ KCE เราเชื่อว่าหมายถึงการแข่งขันเพื่อหาลูกค้าจะลดลง รวมถึงแรงกดดันที่ทำให้บริษัทต้อง ลดราคาขาย นอกจากนี้ แม้ว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์(Tier 2) จะปรับระดับสินค้าคงคลัง แต่อุปสงค์ของ PCB ส าหรับรถยนต์น่าจะลดลงน้อยกว่าอุปสงค์ของเซมิคอนดักเตอร์สำหรับรถยนต์เนื่องจากเราเชื่อว่าสต็อก PCB ส่วนเกินน่าจะระบายออกไปหมดแล้วตั้งแต่ปี 2023

คาดว่า KCE จะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโต 36% yoy ในปี FY24 จาก GPM ที่เพิ่มขึ้นเพราะ 1) ราคาวัตถุดิบลดลง โดย เราเชื่อว่าอุปสงค์ ในภาคก่อสร้างและยานยนต์ที่ยังคงอ่อนตัวทั่วโลกน่าจะช่วยคุมราคาของวัตถุดิบสำคัญอย่าง fiberglass และ epoxy resin รวมไปถึง 2) อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น, 3) การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด และ 4) แรงหนุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX)

ยังแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 50 บาท

 

#Macro&WealthResearch
#CGSInternational