โตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้น เอเชียจับตาธนาคารกลาง 4 ประเทศประชุม

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ บวกกับแรงช้อนซื้อหลังตลาดร่วงลงในปลายสัปดาห์ที่แล้ว  ตลาดแรงงานในญี่ปุ่นตกลงที่จะขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 5.24% กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่ง ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนอัตราการว่างงานลดลงมาที่ 3.8% และราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ บวกกับแรงช้อนซื้อหลังตลาดร่วงลงในปลายสัปดาห์ที่แล้วในกลุ่ม Prime Market  กลุ่มที่นำการปรับขึ้นคือ กลุ่มเครื่องจักร  กลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ และกลุ่มบริการ
เช้านี้เวลา 9.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 151.67-68 เยน  จาก 151.59-69 เยน ในตลาดนิวยอร์ก และจาก 151.33-35 เยน ในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 น. วันศุกร์
กระทรวงการคลังรายงานว่า ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัด  2.64 ล้านล้านเยน (17.4 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนกุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการ รายงานว่า ค่าจ้างที่แท้จริงเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.3% เมื่อเทียบรายปี และเป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 23
ค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน (เงินสดเฉลี่ยต่อเดือนต่อคนซึ่งรวมเงินเดือนและโอที) เพิ่มขึ้น 1.8% มาที่ 282,265 เยน (1,900 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 26 ในการเจรจาค่าจ้างช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชุนโตในปีนี้ บริษัทในประเทศตกลงที่จะขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 5.24% จากผลการสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีโดยสมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่น
ณ เวลา 9.35 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 39,550.02 จุด เพิ่มขึ้น 557.94 จุด, +1.43%
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,069.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด, +0.01%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 16,849.63 จุด เพิ่มขึ้น 125.71 จุด, +0.75%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,721.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.77 จุด, +0.29%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 20,443.64 จุด เพิ่มขึ้น 106.04 จุด, +0.52%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นแทบทั้งภูมิภาค ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกในปลายสัปดาห์หลังรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง  ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางในภูมิภาคในสัปดาห์นี้

เมื่อวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคมว่า เพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 200,000  ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับคาดการณ์ ส่วนอัตราการว่างงานลดลงมาที่ 3.8% จาก 3.9%ที่นักวิเคราะห์คาด

ธนาคารกลางเกาหลี ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กำหนดประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
S&P Global คาดว่า ธนาคารกลางทั้ง 4 ประเทศจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารกลางเกาหลีอาจจะเป็นหนึ่งในธนาคารกลางที่ใกล้จะลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ เป็นหนึ่งในธนาคารเอเชียกลุ่มแรกๆ ที่ยุติวงจรการปรับอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในกลางสัปดาห์ รวมทั้งข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลการค้าของจีนในวันพฤหัสบดีและในวันศุกร์ตามลำดับ
ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China )ได้ประกาศโครงการre-loan’ program  จำนวน 500 พันล้านหยวน (70 พันล้านดอลลาร์) สำหรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนโฉมเพื่อสนับสนุนองค์กรเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลาง
โดย PBOC จะให้กู้แก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้า ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ PBOC กล่าวว่าโครงการนี้ดำเนินการผ่านธนาคาร 21 แห่ง ในอัตราดอกเบี้ย 1.75% และสามารถขยายสินเชื่อได้สองครั้ง และสูงสุดหนึ่งปีในแต่ละครั้ง
ราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า 1%  ขณะที่เทรดเดอร์ยังเกาะติดสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
แต่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบอาจมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังทางเส้นกราฟมีรูปแบบขาขึ้น โดยน้ำมันดิบ WTI สหรัฐและ Brent ผ่านจุด Golden cross (เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นไปอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มตลาดเป็นขาขึ้นหรือสัญญาณของตลาดกระทิง) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันแซงหน้าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันสำหรับน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 79.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แซงหน้าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 79.02 ดอลลาร์เล็กน้อย ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันของ Brent อยู่ที่ 83.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 83.54 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง  1.34 ดอลลาร์หรือ 1.54% ซื้อขายที่ 85.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.51 ดอลลาร์หรือ 1.66%  ซื้อขายที่ 89.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล