เอไอเอไทย เปิด 6 กลยุทธ์ปี’67 หนุนสร้างความมั่นคง-มั่งคั่ง-สุขภาพดี

HoonSmart.com>>เอไอเอ ประเทศไทย เปิด 6 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจ ตอบโจทย์สังคมสูงวัยอายุยืน 100 หนุนเพิ่มความมั่นคงในชีวิต สร้างความมั่งคั่งทางการเงิน เพิ่มความแข็งแกร่งสุขภาพ 

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทยังคงสานต่อนโยบายการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดจปีนี้จะใช้กลยุทธ์ ABCDEF โดย A มาจาก Agency Tranformation หรือตัวแทน ที่จะทำการพัฒนาช่องทางตัวแทนให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และผลิตผลงานที่มีคุณภาพ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานทุกขั้นตอน ทั้งเอไอ อนาไลติกส์ มาช่วย
สอง B มาจาก Business Partner ร่วมกับพันธมิตรในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัทในตลาดประเทศไทย ทั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โตโยต้า ลีสซิ่ง ที่มีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก และมีความแข็งแกร่ง เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีการลงทุนในเทคโนโลยี และบริการร่วมกับพันธมิตร

สาม C มาจาก Customer โดยการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็น Core ของธุรกิจ ที่ต้องเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ บริการตรงใจ ราคาที่ดี ถูกโอกาส
สี่ D มาจาก Digitalization โดยมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ ออกฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้บริการตัวแทนและลูกค้า
ห้า E มาจาก Employee เน้นความเปนอยู่ดีกินดีของพนักงาน จะทำให้ทำงานอย่างมีความสุข ทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจ
หก F มาจาก Future ซึ่งจะมุ่งไปที่การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อคนไทย โดยร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นโรงพยาบาล ในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาดูแลลูกค้า มุ่งให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น อายุยืนขึ้น และมีการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้มีเคมเปญ Living to 100 แบบประกันที่ใช้ในการวางแผนการเงิน เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ที่มีการคาดการณ์กันว่าคนจะอายุยืนไปถึง 100 ปีในอนาคตข้างหน้า จากการคิดค้นพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์การดูแลสุขภาพ และ เทคโนโลยี ที่ทันสมัยมากขึ้น จำเป็นจะต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอซึ่งจะส่งผลดีเมื่ออายุมากขึ้น และต้องมีสุขภาพทางการเงินมั่นคง ให้เพียงพอในการใช้จ่าย ดูแลสุขภาพ การรักษา ในช่วงที่ไม่สามารถหารายได้ ซึ่งจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ถือเป็นหนึ่งในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

สำหรับ ปี 2566 ที่ผ่านมา สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึง 21% เป็น 24,857 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)(1) ที่สูงที่สุดในทุกมิติ ได้แก่ เบี้ยประกันรับรายใหม่ 24% ยอดดขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ 50% ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง 57% ยอดขายยูนิตลิงค์ 59% และประกันกลุ่ม 22%

นายนิคฮิล กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2566 มาจากการที่บุคลากรมีคุณภาพทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง ตลอดจนรูปแบบการทำงานที่เน้น Agility เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งช่องทางพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอเป็นอันดับ 1 ในตลาด(1) ทั้งในแง่จำนวนตัวแทนที่มีมากกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงจำนวนตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT มากที่สุดนับตั้งแต่เอไอเอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของพลังตัวแทน และความสำเร็จของการสร้าง AIA Financial Advisor (AIA FA) ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 28%

สำหรับช่องทางพันธมิตร ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ในการสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในขั้นตอนการพิจารณากรมธรรม์แบบอัตโนมัติ (STP) ในอัตราที่สูงถึง 87% เพิ่มศักยภาพในการอนุมัติกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวได้มากถึง 1,500 กรมธรรม์ต่อวัน และพิจารณาเคลมได้สูงสุดถึง 9,000 เคสต่อวัน

การลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาบริการดิจิทัลและแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและตัวแทนผ่านแอป AIA+ และ AIA ONE เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เราก้าวทันยุคดิจิทัลและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อได้อย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีวินัยเพื่อมุ่งนำเสนอความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพระยะยาวที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ลาสุด เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส เปิดตัวแคมเปญ “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” โดย เอ ไลฟ์ มอบกรมธรรม์อุบัติเหตุฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และยังได้อุ่นใจยิ่งขึ้น