ดาวโจนส์ปิดบวก 300 จุด เจรจาการค้าคืบ

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 300 จุด หลังทำเนียบขาวเผยใกล้ประกาศข้อตกลงการค้าสำคัญแล้ว “ทรัมป์” ผ่อนปรนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ได้แรงหนุนหุ้นกลุ่มการเงินตอบรับผลประกอบการ HSBC – Deutsche Bank

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 29 มษายน 2568 ปิดที่ 40,527.62 จุด เพิ่มขึ้น 300.03 จุด หรือ +0.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน หลังจากทำเนียบขาวเผยว่าใกล้จะมีการประกาศข้อตกลงการค้าสำคัญแล้ว

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,560.83 จุด เพิ่มขึ้น 32.08 จุด, +0.58%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,461.32 จุด เพิ่มขึ้น 95.18 จุด, +0.55%

ตลาดหุ้น แกว่งตัวในแดนบวกสลับแดนลบทั้งวันก่อนที่จะปิดในแดนบวกอย่างมั่นคง ขณะที่นักลงทุนรอรายงานผลประกอบการ และประมวลมาตรการผ่อนปรนภาษีให้กับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์
นายโฮเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับ CNBC ในช่วงบ่ายว่า“ผมได้ทำข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐสภาของพวกเขาอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้” โดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศ

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ โดยป้องกันไม่ให้มีการเก็บภาษีเพิ่มเติมกับรถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศเพิ่มเติมจากภาษีที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้ว ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่ชำระภาษีนำเข้ารถยนต์ของทรัมป์จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีอื่นๆ ด้วย

การปรับเปลี่ยนภาษีศุลกากรล่าสุดทำให้เกิดความหวังที่ความตึงเครียดด้านการค้าจะลดลงอีก หลังจากท่าทีที่ดีขึ้นของทรัมป์เกี่ยวกับการเจรจาการค้า โดยเฉพาะกับจีน อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ได้กล่าวในวันอังคารว่า การาตอบโต้เรื่องภาษีระหว่างสองประเทศนั้นไม่ยั่งยืนสำหรับจีน นอกจากนี้ เขายังไม่ยอมยืนยันว่าทรัมป์ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนหรือไม่

หุ้นใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เช่น General Motors และ Apple ปรับขึ้นจากระดับต่ำสุดในช่วงบ่ายของการซื้อขาย โดย GM กล่าวเมื่อเช้าวันอังคารว่ากำลังประเมินแนวทางในอนาคตอีกครั้งและระงับการซื้อหุ้นคืนเนื่องจากรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม GM ปิดลดลง 0.6% ขณะที่ Apple ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.5%

ด้าน Amazon ปิดลดลงเกือบ 0.2% หลังจาก แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าแผนของบริษัทที่จะแสดงต้นทุนราคาสินค้าที่เกิดจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ บนเว็บไซต์สำหรับ Amazon Haul นั้น ถือเป็น การกระทำที่ไม่เป็นมิตรและมีแรงจูงใจทางการเมือง

การรายงานผลประกอบการได้รับความสนใจอย่างมากในเช้าวันอังคาร โดย GM ได้เลื่อนการชี้แจงผลประกอบการออกไปจนถึงวันพฤหัสบดี เพื่อให้มีเวลาสำหรับสะท้อนการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีของทำเนียบขาว และแม้ว่า GM จะรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกได้ดีเกินคาด แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกของสหรัฐฯ ก็ได้เลื่อนการประมาณการผลประกอบการในปี 2025 ออกไป เนื่องจากต้องรับมือกับผลกระทบจากภาษี

Spotify และ Coca-Cola เป็นบริษัทที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในการรายงานผลประกอบการก่อนเปิดตลาด เพื่อดูว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากภาษีของทรัมป์หรือไม่
หุ้น Pfizer บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากรายงานกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) โดยการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 7.19 ล้านตำแหน่งในเดือนมีนาคม ต่ำกว่า 7.50 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด
Conference Board เผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนอยู่ที่ 86 ต่ำกว่าที่คาดการณ์และลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 92.9 ในเดือนมีนาคม

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนเดือนเมษายนจาก ADP ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ดัชนีราคา
การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมีนาคม การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยหุ้นกลุ่มการเงินได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของ HSBC และ Deutsche Bank แม้ความสนใจของนักลงทุนมุ่งไปที่การ ประเมินผลกระทบของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯจากบริษัทต่างๆ

ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปรับขึ้น โดกลุ่มการบินและอวกาศและกลุ่มการป้องกันประเทศนำการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 525.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด, +0.36%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,463.46 จุด เพิ่มขึ้น 46.12 จุด, +0.55%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,555.87 จุด ลดลง 17.89 จุดม, -0.24%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,425.83 จุด เพิ่มขึ้น 154.16 จุด, +0.69%

หุ้น Rheinmetall ผู้ผลิตกระสุนรายใหญ่ที่สุดของยุโรปพุ่งขึ้น 8.5% หลังจากรายงานยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 46% โดยได้รับแรงหนุนหลักจากธุรกิจด้านการป้องกันประเทศ

กลุ่มเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้น 1.2% โดยหุ้น Novo Nordisk เพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทกล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทเลเฮลท์อย่าง Hims & Hers, Ro และ LifeMD เพื่อขาย Wegovy

หุ้น HSBC ธนาคารในอังกฤษเพิ่มขึ้น 3% หลังจากเปิดการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ แม้บริษัทจะเตือนว่าความต้องการสินเชื่อและคุณภาพสินเชื่ออาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก็ตาม

หุ้น Deutsche Bank ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 5% หลังจากรายงานกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 39%

หุ้น Capgemini บริษัทที่ปรึกษาไอทีของฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 5.6% หลังจากรายงานรายได้ไตรมาสแรกที่สูงขึ้น

หุ้น BP บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ลดลง 2.4% หลังจากรายงานกำไรสุทธิลดลงมากกว่าที่คาดถึง 48% และประกาศลาออกของหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์

หุ้น Porsche ผู้ผลิตสปอร์ตคาร์หรูสัญชาติเยอรมนีร่วงลง 4.1% หลังจากปรับลดคาดการณ์หลายรายการสำหรับปี 2025

ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในยูโรโซนปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีต่อๆ ไปในเดือนมีนาคม แม้จะก่อนหน้าที่สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีกับประเทศส่วนใหญ่ก็ตาม

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีปรับตัวดีขึ้นอีกก่อนเข้าสู่เดือนพฤษภาคม เนื่องจากแนวโน้มของรัฐบาลชุดใหม่ดูเหมือนจะทำให้ครัวเรือนผ่อนคลายลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 60.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 64.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–