CGSI คาดดัชนี SET แกว่งผันผวน จับตาการประชุมกนง.

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดดัชนี SET แกว่งผันผวนจากแรงขายทำกำไร กรอบ 1,135-1,180 จุด แม้ Moody’s ปรับลดมุมมองเป็น Negative (จากเดิม Stable) แต่ยังคงเครดิตที่ Baa1 จากผลกระทบภาษี มองไม่น่ากระทบต่อตลาดมากนัก วันนี้น้ำหนักไปที่การประชุมกนง. พร้อมเชียร์ BJC, ITC

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวผันผวน โดยยังคงให้กรอบที่บริเวณ 1,135-1,180 จุด และ อาจเผชิญแรงขายทำกำไรวันนี้

แม้ว่าไทยจะถูก Moody’s ปรับลดมุมมองเป็น Negative (จากเดิม Stable) แต่ยังคงอันดับเครดิตที่ Baa1 จากผลกระทบภาษีศุลกากร มองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เพราะตลาดหุ้นไทยที่ Underperform กว่าตลาดหุ้นภูมิภาค น่าจะสะท้อนความเสี่ยงจากสงครามการค้าไปพอสมควรแล้ว อีกทั้ง ในอดีตที่ผ่านมา การถูกปรับลดแนวโน้มลักษณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ มองว่าวันนี้ ตลาดจะให้น้ำหนักไปที่การประชุมกนง. ที่อาจส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาพอสมควรแล้วหลังตลาดและคาดการณ์ว่าธปท. จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่อ่อนตัวนับตั้งแต่ปี 2567 ประกอบกับได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและผลกระทบจากสงครามการค้า

นอกจากนี้ ระมัดระวังแรงขายลดความเสี่ยงก่อนตลาดหุ้นไทยปิดทำการพรุ่งนี้ (1 พ.ค.)

อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยจะยังมีแรงสนับสนุนจากหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน TESGX ซึ่งจะเข้าซื้อขายในวันศุกร์ (2 พ.ค.) โดยจะต้องจับตาทิศทางเม็ดเงินสัปดาห์หน้าว่าจะช่วยกระตุ้นดัชนี SET ได้มากเพียงใด

หุ้นแนะนำ BJC เชื่อว่าแนวโน้มที่ธปท. จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะช่วยให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น โดยเห็นสัญญาณที่ BigC จะฟื้นตัวเชิงโครงสร้างหลังการใช้กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายด้วยการปรับปรุงรูปแบบสาขาและขยายสัดส่วนสินค้าประเภทอาหารเชิงรุก (Take profit : 23.9 / Stop loss : 22.7)

ITC เชื่อว่าแนวโน้มที่ธปท. จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าและเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มส่งออก ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงของ ITC ได้สะท้อนถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ที่ออกมาต่ำกว่าไปพอสมควรแล้ว (Take profit : 13.6 / Stop loss : 12.4)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนี DJIA +0.8%, S&P500 +0.6% และ Nasdaq +0.6% รับความหวังสงครามการค้าคลี่คลายลง หลังนายลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และ นายเบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ส่งสัญญาณบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับบางประเทศเร็วๆ นี้ กอปรกับรายงานที่ว่าปธน. ทรัมป์ เตรียมผ่อนปรนการเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า ทำให้มีแรงขายออกมาในสินทรัพย์ปลอดภัย (ราคาทองคำ -0.4%)

นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทจดทะเบียนสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาดก่อนหน้านี้ (Alphabet, Honeywell, Sherwin-Williams, Coca-Cola, Pfizer) ยังเป็น Sentiment บวกให้ตลาดรอติดตามการประกาศงบไตรมาส 1/2568 ของบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่สัปดาห์นี้อย่าง Meta Platforms, Microsoft, Apple, Amazon

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอย่างตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, GDP ไตรมาส 1/2568 และ PCE (วันนี้) รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (2 พ.ค.) ที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า (7 พ.ค.) หลังเมื่อวานนี้รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB เดือนเม.ย. ที่ระดับ 86.0 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 87.7 (เดือนมี.ค. 93.9) และตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนมี.ค. ที่ลดลง 2.9 แสนตำแหน่ง มาที่ระดับ 7.2 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 7.5 ล้านตำแหน่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ

ราคาน้ำมันดิบ WTI -2.6% ยังเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มที่ OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย. โดยจะมีการประชุมในวันที่ 5 พ.ค. นี้