”ณวัฒน์“ ลั่น SABUY ฟื้นไตรมาส 2 ชี้ลงทุนมีแต่ได้-ให้ความคิด

Hoonsmart.com >> “ณวัฒน์ ” บิ๊ก MGI ยืนยันลงทุนหุ้น SABUY 1.7% ได้ธุรกิจทันที ได้ประโยชน์จากอีโคซิสเต็มมีศักยภาพ แต่นำออกมาใช้งานไม่เต็มที่  ประเดิมตู้กดกว่า 1 หมื่นตู้ โชว์ขายน้ำพริกนางงาม 1 แสนกระปุก พร้อมส่งทันที 5 พันกระปุก ทำให้ผู้ถือหุ้นสบายฯ มั่นใจไตรมาส 2 จะดีขึ้น  ส่วนราคาหุ้น SABUY ดิ่ง 2 ฟลอร์ ไม่ส่งผลกระทบงบ MGI  ยอมรับผู้ถือหุ้นใหญ่ถูก Force Sell ตลาดเตือนยังทิ้งไม่หมด

นายณวัฒน์ อิสรไกลศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี   (SABUY) สัดส่วน 1.7% สร้างกระแสความไม่พอใจกับผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจไม่ชอบผู้บริหารเดิม เป็นความรู้สึกของกลุ่มคน แต่การลงทุนแค่ 1.7% ได้ใช้สิทธิต่อรอง ได้ธุรกิจทันที เช่น การแร้ปตู้เวนดิ้ง ที่มีหน้าอิงฟ้า หน้าณวัฒน์ เป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้กับตู้เวนดิ้ง เป็นการได้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ MGI ได้ประโยชน์จากอีโคซิสเต็มของบริษัทสบายฯ ที่มีศักยภาพ แต่นำออกมาใช้งานไม่เต็มที่

“ ผมต้องการถือหุ้น SABUY ได้ที่นั่งกรรมการ เพื่ออำนาจในการต่อรอง คนเดิมลืมไปได้เลย จบแล้ว ผมจะทำให้ผู้ถือหุ้นสบาย มั่นใจว่าไตรมาส 2 บริษัทสบาย จะดีขึ้น โดยได้ความคิดผม ๆ เป็นพี่เลี้ยงให้ เช่น การช่วยคิดเปลี่ยนสินค้า ห้ามซื้อหรือลงทุนใหม่ ๆ หรือ หนี้เสีย ไม่ให้สูงเกิน ”

สำหรับราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลง 2 ฟลอร์ (3-4 เม.ย.2567)  ปิดที่ 2.26 บาท  ดิ่งลงแรง 0.98 บาทหรือ -30.25%ไม่ส่งผลกระทบกับเงินลงทุนของ MGI เนื่องจากมีอำนาจในการเข้าไปบริหารจัดการ

“ณวัฒน์ยันถือหุ้น SABUY 30 ล้านหุ้น ต้นทุนที่ราคา 4.50 บาท ยันไม่ซื้อเพิ่ม ชี้ราคาหุ้น SABUY จะขึ้นหรือลงไม่กระทบกับงบการเงิน MGI แต่สิ่งที่ได้จากการเข้าไปลงทุน ที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าในแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือเครือข่าย ecosystem และตู้กดของ SABUYกว่า 1 หมื่นตู้เพื่อขายสินค้า MGI โชว์ขายน้ำพริกนางงาม 1 แสนกระปุกให้ SABUY  พร้อมส่งทันที 5 พันกระปุก”

ส่วนการเข้าไปลงทุนในหุ้น SABUY ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือชอบหรือชื่นชมกับนายชูเกียรติเป็นการส่วนตัว แต่เข้ามาถือหุ้นใน SABUY เพราะทีมงานมองเห็นโอกาส จากช่องทางการเรียนรู้และเพิ่มช่องทางธุรกิจเป็นหลักจาก SABUY มองเห็นการทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้ MGI ลดต้นทุนและเวลาดำเนินการ  ทั้งตู้เวนดิ้ง 22 จังหวัดกว่า1หมื่นตู้  ecosystem และดาด้าในการระบายสินค้า ส่วนราคาหุ้น SABUY ที่ปรับขึ้นหรือลง ไม่เกี่ยวข้องกับ MGI เนื่องจากถือหุ้น 1% เศษเท่านั้น และยืนยันจะไม่เข้าร่วมบริหาร แต่จะส่งตัวแทนเข้าไปบริหาร อีกทั้งยังถือหุ้นอยู่ครบ และไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม

” ผมยอมรับและเคารพการตัดสินใจ ผมผ่านสนามอารมณ์มากว่า 10 ปี ผมเชื่อในพลัง จุดมุ่งหมาย ความฝัน เป้าปีนี้ของ MGI ยังเติบโตตามเป้าหมายคงเดิม 100%  เรามองเห็นโอกาสจากการเข้าลงทุนในสบาย มีเยอะมาก ลงทุนแค่ 1% เศษ ได้ทั้งตู้สินค้าที่มีทั่วประเทศ กว่า 1 หมื่นตู้ ช่วยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าของ MGI การได้พาร์ทเนอร์ ได้เครือข่ายธุรกิจของสบาย ทำให้เราไปเร็วขึ้น และ MGI ยังอยู่ระหว่างพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็น Ecosystem เริ่มจากฐานแฟนคลับของ MGI ก่อนจะขยายสู่วงกว้าง ซึ่งถ้าไม่มีพาร์ทเนอร์เราก็จะก้าวไปได้ยาก “นายณวัฒน์กล่าว

ด้านนายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY กล่าวว่า หุ้นสบายฯ ปรับตัวลง 2 ฟลอร์ เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ถูกฟอร์ซเซล สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือ การเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยพยายามบริหารการลงทุนที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ หาพันธมิตรใหม่ และเปิดทางให้พันธมิตรลงทุนในธุรกิจที่สบายถือหุ้น 100% เพื่อเตรียมตัวรองรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในสิ้นปีนี้

สำหรับผลประกอบในครึ่งปีแรกยังคงประเมินยาก ส่วนหนึ่งเพราะงบประมาณของรัฐที่มาล่าช้า ส่งผลต่อการใช้จ่ายและบริโภคผิดไปจากแผน แต่ผลประกอบการในครึ่งปีหลังผลงานจะชัดเจนและดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจุบัน SABUY มีกระแสเงินอยู่ 100 ล้านบาท

“ราคาหุ้น SABUY ที่ปรับลดลงมาก  เราคงทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือต้องทำงานของเราให้ดึ เพื่อสร้างผลงานและประกอบออกมาให้ดี เพื่อให้นักลงทุนมองเห็น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ SABUY เนื่องจากสภาพการซื้อขายปรับตัวลงมากในวันที่ 3 และ 4 เม.ย.2567  โดยราคาปรับตัวลดลงไปต่ำสุดของวัน (Floor) ต่อเนื่อง 2 วัน (-51%)

สำหรับวันนี้ (4 เม.ย. 2567) ราคาลดลงไปที่ Floor จนไม่มีคำเสนอซื้อ (Bid) เหลืออยู่เลย ตั้งแต่เปิดตลาด และทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงมาปิดภาคเช้าที่ 2.28 บาท -29.63% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 90 ล้านบาท ในขณะที่ SET Index และ Sector Index (COMM) ที่ -0.29% และ +0.12% ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมีผู้ขายมากกระจุกในบุคคลบางราย โดยเฉพาะวันนี้ (4 เม.ย. 2567) ถึง 85%ของปริมาณการซื้อขายรวม เป็นการขายของบุคคลที่ถูก Force Sell จากราคาที่ลดลงมากในวันก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน SABUY ชี้แจงข้อมูลว่าไม่มีพัฒนาการใดๆ ทางธุรกิจที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์แต่อย่างใด (ปรากฏตามข่าวที่บริษัทชี้แจงผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ เมื่อเวลา 12.31 น. ผ่าน www.set.or.th)

ส่วนสัดส่วนการ Short Selling ไม่มาก และเป็นการขายจากผู้ลงทุนรายย่อยที่ถูก Force Sell เป็นหลัก  วันนี้ 4 เมษายน 2567 ภาคเช้า ไม่มีรายการ Short selling ขณะที่เมื่อวาน (3 เม.ย. 2567) มีสัดส่วน Short selling ที่ 0.20% ของปริมาณการซื้อขาย ซึ่งการขายทั้งหมดเป็นรายย่อย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลทั้งด้านการซื้อขาย และสารสนเทศของ SABUY อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย