“คิงส์ฟอร์ด” มองตลาดขาดปัจจัยหนุน ปธ.เฟดย้ำไม่รีบลดดอกเบี้ย แนะ SPRC-TU

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้แนวต้าน 1,380-1,385 จุด ส่วนแนวรับ 1,365-1,370 จุด ช่วงสั้นยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ทิศทาง fund flow ชะลอตัว ด้านประธานเฟดชี้ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดี เงินเฟ้อยังสูงกว่าคาด ตลาดแรงงานแกร่ง ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเอกชน มี.ค. เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรศุกร์นี้ พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ แนะ SPRC-TU

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET Index แนวรับ 1,365-1,370 จุด แนวต้าน 1,380-1,385 จุด ช่วงสั้นยังคงขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่ทิศทาง fund flow ชะลอตัว แนะนำ Selective Buy กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี PTTEP, PTTGC, IVL, BSRC, SPRC กลุ่มส่งออก AAI, ITC, TU

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ทรงตัว DJIA -0.11%, S&P500 +0.11%, Nasdaq +0.23% หลัง ADP เผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเอกชน มี.ค. เพิ่มขึ้น 184,000 สูงกว่าคาด 148,000 ราย บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐขยายตัวดี ขณะที่ เจอโรม พาวเวล กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาเศรษฐกิจที่ ม.สแตนฟอร์ด ชี้เฟดยังไม่รีบลดดอกเบี้ยเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดี และเงินเฟ้อยังสูงกว่าคาด ส่งผลให้ Interest Futures ชี้ดอกเบี้ยสหรัฐปลายปีนี้มีโอกาสลดลง 0.57% น้อยกว่า Fed Dot Plot คาดจะลด 0.75%

วันศุกร์นี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ มี.ค. คาดที่ 205,000 และ ก.พ. 275,000 ราย, อัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 3.9%

ด้านผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.354%

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SPRC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.10 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 เติบโตดีทั้ง QoQ, YoY หนุนจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวและมีการบันทึกกำไรสต๊อกน้ำมัน โดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์หลักที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทั้งตามแผนและนอกแผนหลายแห่ง ประกอบกับต้นทุน crude premium ที่ลดลง รวมถึงกำลังการกลั่นของบริษัทสูงขึ้นหลังผ่านการปิดซ่อมหน่วย RFCCU ใน 4Q66

นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวระหว่างไตรมาสทำให้คาดกลับมามีกำไรสต๊อกจำนวนมาก ส่วนแนวโน้ม 2Q67 ปกติค่าการกลั่นจะลดลงตามฤดูกาล แต่มองว่าประคองตัวได้จากการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของรัสเซีย และในช่วงปลายไตรมาส 2 จะเริ่มเข้าสู่ us driving season

หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ประเมินกำไรปกติ 1Q67 ที่ 979 ล้านบาท (+21%YoY, -17%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เด่น YoY ในส่วนของ operation หลักทั้งรายได้ฝั่ง Petcare และ Ambient Seafood แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก 1.1Q66 มีส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ราว +134 ล้านบาท (1Q67 ไม่รับรู้แล้วหลังถอนทุน RL ใน 4Q66) และ 2.GPM ที่โดนกดดัน QoQ จากฝั่ง Ambient และ Frozen ส่วน 2Q67 เบื้องต้นคาด +YoY จากฐานต่ำปีก่อน(2Q66 คู่ค้ายังมี Inventory สูง)/ ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากRL(-193 ล้านบาท ใน 2Q66) และ +QoQ จากออเดอร์ปรับขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากต้นทุนปลาทูน่าอยู่ในโซนต่ำมากกว่าในช่วง 1Q67 ที่ต้นทุนปรับลงตามราคาขายทูน่ากระป๋อง OEM ที่ปรับลงก่อนไม่ทัน