HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายโอกาสลงทุน DR ซื้อขายได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงตี 3 เริ่ม 6 พ.ค. นี้ ให้ได้เทรดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรปได้เต็มที่ พร้อมรองรับ DR ใหม่จ่อเข้าตลาดอีก 30 หลักทรัพย์ ส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้นสหรัฐ
ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จะขยายเวลาการซื้อขายสำหรับตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในทวีปอเมริกาและยุโรป ให้สามารถซื้อขายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. และ 19.00-03.00 น. (ของวันถัดไป) ขณะที่ DR เอเชีย ยังคงซื้อขายในเวลากลางวันเช่นเดิมซึ่งสอดคล้องตามเวลาประเทศไทย

สำหรับ DRx (Fractional DR) ซึ่งปัจจุบันมี 20 หลักทรัพย์ เป็น DR ที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ในตลาดอเมริกาทั้งสิ้นนั้น จะถูกย้ายไปซื้อขายรวมกับ DR โดยอัตโนมัติในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และเริ่มซื้อขายตามเวลาใหม่ของ DR ตั้งแต่ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งการปรับปรุงบริการในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามราคาและส่งคำสั่งซื้อขาย DR ทั้งหมดได้ในทุกแพลตฟอร์มซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์โดยใช้บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีในปัจจุบัน ทำให้เกิดความสะดวกสบายและจูงใจให้มีการซื้อขายมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ DR และ DRx ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 23 เมษายน 2568 มีจำนวน DR และ DRx 89 หลักทรัพย์ ครอบคลุมหลักทรัพย์ชั้นนำทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย และมีผู้ออก DR จำนวน 5 ราย มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ประมาณ 31,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 580 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 140% จากปีก่อนหน้า
“ในเดือน พ.ค.นี้มี DR ใหม่ที่เตรียมจะเข้าจดทะเบียน 30 หลักทรัพย์ จากผู้ออก 8 ราย ซึ่งมีผู้ออกรายเดิม 5 ราย และรายใหม่อีก 3 ราย ส่วนใหญ่เป็น DR ที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เพราะ DR สามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ โดยใช้เงินไม่มาก และไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งมีทั้งนักลงทุนหน้าใหม่ และนักลงทุนรายเดิม”ดร.รินใจ กล่าว
ดร.รินใจ กล่าวว่า การขยายเวลาซื้อขาย DR ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยเข้าถึงและกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยได้สะดวกมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน และรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาว
นอกจากนี้ ตลท.มีแผนที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ชื่อ Leverage & Inverse ETFs ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากหุ้นขาลง โดยไม่ต้องเปิดบัญชีเทรดฟิวเจอร์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ออกเกณฑ์มารองรับเรียบร้อยแล้ว และทางตลท.ได้ทำประชาพิจารณ์จากบลจ.แล้ว ซึ่งได้รับความสนใจเกินคาด เพื่อให้มีหลักทรัพย์ที่หลากหลาย ไว้ให้นักลงทุนได้เลือกตามสไตล์การลงทุนของแต่ละคน
