APO แจกผลตอบแทนวันแรก 114% ชูกำไรโตแซงรายได้

HoonSmart.com>>”เอเชียนน้ำมันปาล์ม (APO) สุดยอด เข้าเทรด mai วันแรก แจกกำไรสูงเกิน 100 % มั่นใจผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% ชูกลยุทธ์ขยายลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพ ธุรกิจไฟฟ้าปี 67  ผลิตได้เต็มกำลัง 1  MW ตามสัญญาซื้อขาย ด้าน APM ที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจพื้นฐานดี เหมาะลงทุนระยะยาว บล.คิงส์ฟอร์ด เผยธุรกิจมีความสามารถทำกำไร สร้างโอกาสที่ดีให้นักลงทุน เผยปีนี้มีหุ้นน้องใหม่รวม 8 บริษัท พบ 5 บริษัท ราคาปิดวันแรกสูงกว่าจอง

บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม (APO) พุ่งลิ่วเหนือคาด เข้าเทรด mai  วันแรก (2 เม.ย.2567) เปิดกระโดดที่ 1.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท ผลตอบแทนประมาณ 76% จากราคา IPO ที่ 0.99 บาท แรงซื้อยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วิ่งขึ้นไปสูงสุดแตะ 2.86 บาท แจกกำไร 188.89% ก่อนมาปิดที่ระดับ 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 1.13 บาท หรือ +114.14% บาท ให้ผลตอบแทน 114%

นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม หรือ APO ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% และมีความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น โดยมีแผนขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โรงกลั่นน้ำมันปาล์มดิบ กลุ่มจัดหาและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (Trader) และฐานลูกค้าเดิมที่จะทำสัญญาซื้อขายระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต

นอกจากนี้เงินที่ระดมทุนได้ นำไปปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เปลี่ยนเครื่องจักรหม้อนึ่งจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง เพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพดี และลดต้นทุนในระบบผลิต คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมดำเนินงานได้ภายในปี 2568 ซึ่งบริษัทวางกลยุทธ์การผลิตน้ำมันปาล์มดิบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สภาพอากาศ และภาวะเศรษฐกิจอยู่เสมอ ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 53.86% ปริมาณทะลายปาล์มสดที่เข้าสู่กระบวนการผลิต 232,655 ตัน โดยบริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุด (Maximum Capacity อยู่ที่ 432,000 ตัน นอกจากนี้การปรับปรุงดังกล่าวยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่เงินระดมทุนที่เหลือจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสทางธุรกิจทั้งต้นน้ำ และปลายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตั้งแต่ด้านการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ปาล์มที่ให้ผลผลิตคุณภาพสูง การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตให้หลากหลาย เช่น การต่อยอดธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ การผลิตน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

ด้านธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักรในช่วงไตรมาส 3/2566 เพื่อให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าต่อหน่วยได้มากขึ้น ส่งผลให้ในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่บริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นธุรกิจไม่มีต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้มาจากกระบวนการบำบัดน้ำเสียก่อให้เกิดก๊าซชีวภาพนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงโดยในปี 2566 มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 42.55%

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า APM มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ APO โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ภายหลังการระดมทุนจะทำให้ศักยภาพของ APO ที่มีฐานะการทางการเงินที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เติบโตยั่งยืนมากขึ้น และจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจกว่า 40 ปี ประกอบกับผู้บริหารรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มีมุมมองการพัฒนาประสิทธิภาพแตกต่างจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมุ่งเน้นเพิ่มความสามารถการทำกำไร ทั้งการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการสูญเสีย การเพิ่มปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ทุกชนิด และการมีต้นทุนที่ต่ำลง เพิ่มความสามารถการแข่งขันและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งเงินที่ได้จากการระดมทุนนำไปขยายกิจการเต็มจำนวน จึงเชื่อว่า APO จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจ เหมาะที่จะลงทุนในระยะยาว อีกทั้ง บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด

ดร. วรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด หรือ KFS ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน กล่าวว่า เชื่อว่า APO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน อีกทั้งผู้ถือหุ้นเดิมสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่เพิ่มเติมจากเกณฑ์ Silent Period ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (Voluntary Share Lockup) เป็นระยะเวลา 6 เดือน

ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมด้านกระแสเงินสด และกำไรสะสมที่อยู่ในระดับดี อีกทั้งความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มความต้องการน้ำมันปาล์มดิบเติบโตต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า APO จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งในแง่ของการเติบโตและการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อผนวกกับการพัฒนาประสิทธิภาพระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ APO สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งในอนาคต

สำหรับภาพรวมหุ้นน้องใหม่ที่เข้าตลาดหุ้นในปี 2567 ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 8 บริษัท แบ่งเป็น SET จำนวน 4 บริษัทเท่ากับ mai  โดยมี 5 บริษัทที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในวันแรก ชนะตลาดโดยรวมที่ดัชนี SET ลดลง 2.57% ดัชนี mai ลดลง 0.32% ณ วันที่ 1 เม.ย.2567