พรูเด็นเชียล เป้ากำไรเบี้ยใหม่โต 15-17% ชูประกันช่วยลูกค้าฝ่า 5 เมกะเทรนด์โลก

HoonSmart.com>>พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ตั้งเป้ากำไรจากเบี้ยใหม่ปี’67 โต 15-17% เน้นแบบประกันช่วยลูกค้าฝ่า 5 ความเสี่ยงยุคโลกใหม่

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2567 ตั้งเป้ากำไรจากธุรกิจใหม่ หรือเบี้ยใหม่ตามเป้าหมายของกลุ่มพรูเด็นเชียล 15-17% โดยจะเน้นพัฒนาสินค้าที่นำพาลูกค้าผ่านความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลก หรือ เมกะเทรนด์

อันดับแรก สังคมสูงวัย ที่จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพไว้ดูแลผู้สูงอายุ เพราะค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 7-8% บางปีขึ้นไปถึง 10% ซึ่งบริษัทได้เตรียมสินค้าด้านสุขภาพ คือประกันสุขภาพ ที่รับลูกค้าแรกเข้าตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 85 ปี และดูแลต่อเนื่องถึงอายุ 99 ปี จะช่วยให้ดูแลสังคมสูงอายุได้แน่นอน สินค้าบำนาญ ซึ่งบริษัทเป็นอันดับ 3 ด้านบำนาญ แม้เบี้ยปีแรกจะอยู่อันดับ 6 แต่เบี้ยประกันบำนาญอันดับ 3 มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 18% ตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 มีเบี้ยบำนาญ 780 ล้านบาทต่อปี สินค้าที่มีตอบโจทย์สังคมสูงวัย

“ผลิตภัณฑ์เพื่อการออมและวางแผนการเงินในอนาคตเพื่อใช้ในยามเกษียณ ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมากจนทำให้เป็นผู้นำของผลิตภัณฑ์ด้านนี้”

สอง หนี้ครัวเรือน ปัจจุบันไทยมีหนี้ครัวเรือต่อ GDP สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ต่อไปจะเป็นปัญหาสังคม บริษัทฯจึงจะช่วยให้สังคมเข้าถึงกรมธรรม์ได้ง่าย เน้นช่องทาง ดิจิตอลที่มีการเติบโตเร็ว โดยออกประกันที่มีเบี้ยไม่สูง เข้าใจง่าย ทำให้คนมีรายได้น้อยที่มีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน สามารถซื้อประกันเพื่อวางแผนการเงินและ ป้องกันความเสี่ยงได้ เช่นประกันโรคร้ายแรง ประกันแบบชั่วระยะเวลา ที่เบี้ยต่ำและได้ความคุ้มครองสูง

นอกจากนี้ ยังมีบริการปล่อยกู้ตามกรมธรรม์ สำหรับลูกค้าที่จ่ายเบี้ยมานาน ซึ่งในกรมธรรม์มีมูลค่าเงินสด สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ  ระยะเวลาในการคืนเงินกู้ก็มีความยืดหยุ่นมาก

สาม ความกดดันจากการไม่ลงรอยระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก เป็นความเสี่ยง ซึ่งบริษัมีประกันยูนิตลิงค์ โกลบอล อินเด็กซ์  มีกองทุน 73 กองทุน ให้ลูกค้าเลือก ทั้งในโซนยุโรป อเมริกา เอเชีย และไทย ทำให้กระจายความเสี่ยงได้ดี ขายผ่ายธนาคารทีทีบี และธนาคารยูโอบี มีการลงทุนในตลาดทุน และสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ ที่สำคัญมีการค้ำประกันเงินต้น เพื่อบริหารการลงทุนรองรับการเติบโตในอนาคต

“สามารถสับเปลี่ยนกองทุนฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการเงินของลูกค้าเพื่อความมั่นคงในอนาคต”

สี่ เมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยี บริษัทมีเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมที่เป็นอัตโนมัติสูงที่สุดในภูมิภาคของกลุ่มพรูเด็นเชียล โดยบริษัทนำเทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องการทำงานด้านต่างๆเร็วขึ้น ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกรมธรรม์ผ่านดิจิทัลสูงถึง 95% โดยไม่มีคนไปเกี่ยวข้องเลย แต่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนมีคนมานั่งบริการ ต่อไปจะมีการนำ AI เข้ามาช่วยด้านการบริการให้มากขึ้น

ห้า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จากการที่บริษัทยึดคำว่า ชีวิตมีกันทุกวันดีกว่า ได้ตั้งปณิธานที่จะมีส่วนร่วมทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น อย่างน้อยจะไม่สร้างผลกระทบในด้านลบให้กับโลกใบนี้ด้วยพลังการเงินที่มี และธุรกิจที่ดี โดยตั้งเป้า ปี 2040 สิ่งที่บริโภคจะไม่สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ และระยะถัดไป หรือ สโคป 2  กิจกรรมทางธุรกิจจะต้องไม่สร้างมลพิษให้โลก โดยปีนี้ ตั้งใจทำวิจัยร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องในประเทศและภูมิภาค เพื่อหาต้นเหตุของ PM 2.5 และช่วยกันแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

“ปีที่ผ่านมาเราได้มอบความคุ้มครองให้กลุ่มเปราะบางที่เป็นลูกจ้ารัฐ ที่ไม่มีสวัสดิการดูแล โดยทุกๆ 1 กรมธรรม์ใหม่ที่เกิดขึ้น จะมอบ 1 กรมธรรม์ให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยมอบไป 71,000 กรมธรรม์เป็นประกันอุบัติเหตุกลุ่ม คุ้มครองหัวละ 100,000 บาท”

นายบัณฑิต กล่าวว่า 2567 บริษัทฯ พร้อมเดินเกมรุกทุกด้านให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศในด้านต่างๆ โดยยึดลูกค้าเป็นที่ตั้ง เพิ่ม Partner มากขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึง product ของบริษัทได้มากขึ้น ผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) ธนาคารยูโอบี ล่าสุด ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ช่องทางนายหน้าและตัวแทน ช่องทางการขายทางโทรศัพท์ หรือช่องทาง ดิจิทัล ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการแบบ ‘One Connected Platform’ ผ่านช่องทาง PRUConnect และ PRUServices@Pulse  ในด้านการดูแลลูกค้า

แม้จะสามารถทำคะแนนความพึงพอใจลูกค้าอยู่ในเกณฑ์สูงสุด (The 1st Quartile Relationship Net Promoter Score) ในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่หยุดนิ่งและวางกลยุทธ์เชิงรุกที่เน้นความใส่ใจดูแลลูกค้าในทุกย่างก้าวเพื่อพัฒนาและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของปีนี้ ก็คือ “PRU 888”: ชําระเบี้ยประกันภัยเพียง 8 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 88 ปี, รับเงินคืนทุกปี        ปีละ 8% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น ยาวจนถึงอายุ 87 ปี, รับเงินก้อนสูงถึง 888% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น เมื่อครบกำหนดสัญญา

แบบ “ttb Global Index 15/5 และ UOB Smart Goal 5/15”: ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่จ่ายเบี้ยฯ ระยะสั้นเพียงแค่ 5 ปี รับความคุ้มครอง15 ปี มีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนระดับโลก พร้อมความคุ้มครองชีวิตและการันตีค่าเบี้ยฯ ที่ชำระแล้วเต็มจำนวน กระจายความเสี่ยงสูงมากเมื่อคำนวณผลประกอบการ index มาแล้วอยู่ในระดับสูงที่น่าพอใจ โดยมีโอกาสอัพไซส์นอกจากเงินต้นไม่หาย

รวมถึง แผนประกันสุขภาพแบบต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต  เช่น พรูโรคร้าย ซูเปอร์คุ้ม ประกันโรคร้ายแรง เจอจ่ายจบ ที่จะคุ้มครองคุณจากโรคมะเร็งทุกระยะ และโรคร้ายอื่น ๆ / ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มแบบครอบครัวเป็นประกันกองกลางคุ้มครองชีวิตในครอบครัว และแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลร่วมกันได้ทั้งครอบครัว / แผนประกันคุ้มครองชีวิตและโรคร้าย มีเงินใช้สุขใจหลังเกษียณ พร้อมโอกาสรับเงินปันผล เป็นต้น

“ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปจะมีพาเหรดประกันสุขภาพออกมา ให้กับทุกช่องทางจัดจำหน่าย”นายบัณฑิต กล่าว

สำหรับ ผลการดำเนินงานของปี 2566 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,700 ล้านบาท เติบโต 11%  (จากเบี้ยประกันภัยรับรวม 31,300 ล้านบาท ในปี 2565) ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 7 ของผู้นำธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย จากอันดับ 8 ในส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) อยู่ที่ 8,600 ล้านบาท  (จากรายงานประจำปี 2566 ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล) เพิ่มขึ้น 5% (จาก 8,200 ล้านบาท ในปี 2565)  และมีเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุเพิ่มขึ้น 18% อยู่ที่ 22,200 ล้านบาท (จาก 18,700 ล้านบาท ในปี 2565)