บล.กรุงศรี มองโรงแรม-สนามบินแนวโน้มดี นักท่องเที่ยวฟื้นแข็งแกร่ง

HoonSmart.com>>บล.กรุงศรี มองไตรมาส 1/67 กลุ่มโรงแรม-สนามบินแนวโน้มดี หลังจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวแข็งแกร่ง เชียร์”ซื้อ”AOT ราคาเป้าหมาย 75 บาท ERW ราคาเป้ามหาย 6.40 บาท MINT ราคาเป้าหมาย 42 บาท พร้อมคาดจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นช่วงเดือนเม.ย. เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดจะทําได้ตามประมาณการ 35.8 ล้านคนในปีนี้ โดยจํานวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีประมาณ 7 ล้านคน

บล.กรุงศรี มองแนวโน้มดีในกลุ่มโรงแรมและสนามบินช่วงไตรมาส 1/67 การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของจํานวนนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 1/67 สะท้อนถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มที่ดีสําหรับสนามบินเช่น AOT (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 75 บาท) ปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศได้เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ โดยเพิ่มขึ้น 35% yoy และอยู่ที่ 87% ของระดับก่อนโควิด-19 ในทํานองเดียวกัน ปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศก็เพิ่มขึ้น 31% yoy และอยู่ที่ 83% ของระดับก่อนโควิด-19 สําหรับโรงแรม ผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งนี้ช่วยหนุนให้อัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องพักในโรงแรมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 1/67 เติบโตจากข้อมูลของโรงแรม การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าห้องพักในระดับสองหลักทําให้คาด RevPar จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และqoq ในไตรมาส 1/67 คงคําแนะนํา “ซื้อ” สําหรับหุ้น ERW (ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท)และ MINT (ราคาเป้าหมาย 42 บาท)

จํานวนนักท่องเที่ยวคาดเพิ่มขึ้นช่วงเดือน เมษายน โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจํานวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1% ในสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้น (+3% wow) อินเดีย (+13%wow) และรัสเซีย (+28%wow) และคาดว่าแนวโน้มนี้จะดําเนินต่อไปในช่วงเดือนเมษายน หลังจากสิ้นสุดช่วงถือศีลอดในวันที่ 10 เม.ย. และเทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะมีการจัดงานใหญ่ปัจจุบัน จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 103,000 คน ซึ่งคิดเป็น 87% ของระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงคาดว่าจํานวนนักท่องเที่ยวรวมจะยังคงเพิ่มขึ้น และทําได้ตามประมาณการที่ 35.8 ล้านคนในปีนี้ โดยจํานวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีประมาณ 7 ล้านคน

สํานักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานจํานวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี (ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.ถึง 24 มี.ค.) เท่ากับ 8.7 ล้านคน โดยมี 5 อันดับประเทศสําคัญ ได้แก่ จีนจํานวน 1.63 ล้านคน (19% ของจํานวนทั้งหมด) มาเลเซีย 1.10 ล้านคน (13%) รัสเซีย 0.53 ล้านคน (7%) เกาหลีใต้ 0.50 ล้านคน (6%) และอินเดีย 0.40 ล้านคน (5%)