“หุ้นโตเกียว” เช้านี้ร่วง เยนแข็งค่า “เอเชีย” มีทั้งบวก-ลบ วิตกทรัมป์กดดันเฟด

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวลง นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นมากสัปดาห์ก่อน ผสมแรงกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนแข็งค่า “ตลาดหุ้นเอเชีย” มีทั้งบวกและลบ นักลงทุนยังวิตก “ทรัมป์” เปิดฉากโจมตีประธานเฟด ส่งผลต่อความเชื่อมั่น

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลง นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว บวกกับแรงกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกจากการแข็งค่าของเงินเยน

ในตลาด Prime Market กลุ่มที่นำการปรับลง คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มขนส่งทางทะเล

เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น 0.70% เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 141.16 เมื่อเวลา 9.00 น. ตามเวลาสิงคโปร์ของวันจันทร์

เวลา 9.41 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 34,419.71 จุด ลดลง 310.57 จุด, -0.89%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกมีทั้งปรับขึ้นและปรับลง จากความตึงเครียดด้านการค้าและการวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อย่างเปิดเผยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลต่อความเชื่อมั่น
ทรัมป์ได้เปิดฉากโจมตีประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ หลายครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี โดยทีมงานของเขากำลังประเมินว่าพวกเขาสามารถปลดพาวเวลล์ออกได้หรือไม่ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางและตลาดโลก

ชารู ชานานา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Saxo ในสิงคโปร์กล่าวว่า ตลาดอยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่แล้วเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และตอนนี้มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าการแทรกแซงของทรัมป์ที่มีต่อเฟดอาจเพิ่มความไม่แน่นอนอีกชั้นหนึ่ง

“สัญญาณของแรงกดดันทางการเมืองต่อนโยบายการเงินอาจบั่นทอนความเป็นอิสระของเฟดและทำให้เส้นทางข้างหน้าของอัตราดอกเบี้ยมีความซับซ้อนขึ้น ในขณะที่นักลงทุนกำลังมองหาเสถียรภาพท่ามกลางความผันผวนทั่วโลก”

ความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนในสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นจากการโจมตีเฟดของทรัมป์ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ส่วนใหญ่ เงินยูโรแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ในขณะที่เงินเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน

สกุลเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.305 ขณะที่ริงกิตมาเลเซียแข็งค่าขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 4.39

ในจีน ธนาคารกลางจีนยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลัก(Loan Prime rate:LPR)ไว้ที่ระดับ 3.10% สำหรับระยะเวลา 1 ปี และ 3.60% สำหรับระยะเวลา 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,29032 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด, +0.41%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 21,395.14 จุด เพิ่มขึ้น 338.18 จุด, +1.61%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,486.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด, +0.12%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 19,179.83 จุด ลดลง 215.2 จุด, -1.11%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.18 ดอลลาร์หรือ 1.82% ซื้อขายที่ 63.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 1.21 ดอลลาร์หรือ 1.78% ซื้อขายที่ 66.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–