หุ้นเช้านี้ลบ 1.41 จุด แกว่งแคบ เจอแรงขายทำกำไร

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 1.41 จุด แกว่งแคบ เจอแรงขายทำกำไร ท่ามกลางรอตัวเลข PCE ของสหรัฐ และเกาะติดสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 26 มี.ค. 2567 ณ เวลา 10.02 น.อยู่ที่ระดับ 1,371.08 จุด ลดลง 1.41 จุด หรือ -0.10% มูลค่าซื้อขาย 1,724.91 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ ตลาดเจอแรงขายทำกำไร หลังมีความกังวลเข้ามา รอตัวเลข PCE และสงคราม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดความร้อนแรงลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังรับรู้การประชุม FOMC ไปแล้ว เริ่มมีการพูดถึงความร้อนแรงของตลาดหุ้น(สหรัฐฯ) และตลาดมีตัวแปรที่มีความเสี่ยงเข้ามาหลายตัว ทำให้นักลงทุนหันมารอดูตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค (PCE) ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้ ตัวเลขคาดการณ์เดือน ก.พ.คือ 2.8% เท่ากับเดือนก่อน) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมีผลต่อตลาดอื่นๆ ด้วย

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า (Dollar Index = 104 จุด) ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงบางประการของตลาด อาทิ สงคราม และนโยบายการเงิน+เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีนและญี่ปุ่น วันนี้ ค่าเงินดอลลาร์ ทรงๆตัว ตามเงิน 2 สกุล เงินหยวน(7.20 หยวน/ดอลล่าร์) และเงินเยน(151 เยน/ดอลล่าร์) จึงประเมินน่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดประเทศ ดีขึ้นเล็กน้อย

สถานการณ์สงคราม ทั้ง รัสเซีย และอิสราเอล กลับมาเป็นตัวตึงของตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะรัสเซีย ที่จะบุกยูเครนรอบใหม่ มีผลไปถึง supply ของน้ำมัน และผลิตผลการเกษตร(ข้าวสาลี) โดยมองเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมัน(PTTEP) แต่เป็นลบต่อเศรษฐกิจโลก-เงินเฟ้อ และตลาดหุ้น

การประชุมคณะกรรมการค้าจ้าง วันนี้(26 มี.ค.) จะมีการพิจารณาปรับค่าแรงรอบต่อไป (13 เม.ย.) ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำ ที่เสนอมา จะปรับขึ้นอีก 1.5% หลังปรับขึ้นรอบแรก 1 ม.ค.67 ไปแล้ว 2.37% การขึ้นค่าแรง เม็ดเงินไม่น่าจะทำให้คนใช้จ่ายเพิ่มอย่างมีนัยยะ และจะเป็นลบต่อต้นทุนของภาคธุรกิจที่จะสูงขึ้น มีผลต่อหุ้นที่ใช้แรงงานมากและ การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในไทย (ผลต่อหุ้นนิคมฯ)

ผลศึกษาการแจกเงินตามโครงการ “Digital Wallet” จะมีความชัดเจน 10 เม.ย. นี้ ข่าววานนี้ รัฐบาลเตรียมใช้นโยบายนี้ไตรมาส 4 ปีนี้ และยังคงวงเงินไว้ที่ 5 แสนล้านบาท หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หลักๆ จะเป็นหุ้นในกลุ่มค้าส่ง-ค้าปลีก ส่วนจะบวกมากหรือน้อย ขึ้นกับเงื่อนไข รวมทั้งวงเงินที่จะมีการแจกด้วย

Event สำคัญวันนี้ ประชุม ครม. และตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ.ของไทย (คาด 4.2%, เดือนก่อน 10%)

ด้านกลยุทธ์ มองตลาดปรับตัวลงตามที่คาด (ข่าวลบใหม่ๆ เข้ามากดดันตลาด เช่น ดอลลาร์แข็ง) วันนี้จะมีเรื่องการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำ ภาพใหญ่ๆ ยังดูเป็นลบ จับตาว่าตลาดจะมี rebound หรือไม่ ที่ระดับ 1,368-1,370 จุด ไม่ว่าอะไรก็ตาม เวลานี้ ควรเพิ่มการถือเงินสด หรือเลือกขายทำกำไรหุ้นออกไปบ้าง

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 114.90 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 123.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.82% มูลค่าซื้อขาย 94.53 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 251.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 89.06 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 114.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 82.59 ล้านบาท
VGI อยู่ที่ 1.71 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ +4.27% มูลค่าซื้อขาย 62.16 ล้านบาท