ดาวโจนส์ปิดลบ 162 จุด รอข้อมูลดัชนี PCE

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดาวโจนส์ลดลง 162 จุด แรงขายทำกำไรหลังสัปดาห์ก่อนทั้งสามดัชนีปรับขึ้นแข็งแกร่งและปิดที่ all-time high นักลงทุนรอรายงานดัชนี PCE วันศุกร์ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI-Brent” เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน
      
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 25มีนาคม 2567 ปิดที่ 39,313.64 จุด ลดลง 162.26 จุด หรือ -0.41% จากการขายทำกำไรหลังในสัปดาห์ที่แล้วทั้งสามดัชนีหลักปรับขึ้นแข็งแกร่งและปิดที่ all-time high ขณะที่นักลงทุนการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,218.19 จุด ลดลง 15.99 จุด, -0.31%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,384.47 จุด ลดลง 44.35 จุด, -0.27%
      
ลิซ่า เอริกสัน นักวิเคราะจาก U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า ตลาดปรับตัวลงจากการขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีทั้งสามปรับขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดรายสัปดาห์ของปีในสัปดาห์ที่แล้ว
      
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังคงยึดกรอบเวลาการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บวกกับนักลงทุนลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จากกระแส AI
      
อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนกังวลต่อผลที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ตลาดปรับขึ้นมากเกินไปและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาว แซม สโตวัลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์ของ CFRA Research ยังชี้ว่า ราคาหุ้นแพงขึ้นแล้ว โดยขณะนี้ S&P ซื้อขายที่ 33% ของ PEเฉลี่ยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา “ตลาดมีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะปรับตัวลงหรือราคาหุ้นอ่อนตัวลง”
      
สัปดาห์นี้ นักลงทุนรอข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มที่วัดจากดัชนี PCE ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญในวันศุกร์ แต่คาดว่าตลาดจะตอบสนองในวันจันทร์ วันศุกร์ตลาดปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
      
สโตวัลล์ คาดว่านักลงทุนจะไม่ตอบสนองต่อข้อมูล PCE หลังจากที่ได้ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตล่าสุดแล้ว และคิดว่านักลงทุนมีความกังวลน้อยลงกับข้อมูล ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนความคาดหวังของนักลงทุนในปัจจุบัน
      
นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PCE จะแสดงให้เห็นถึงเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในเดือนกุมภาพันธ์ โดยราคาเพิ่มขึ้น 0.4% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตามดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวนออกไป จะลดลงเหลือ 0.3% จาก 0.4%
      
ดัชนีราคา PCE พื้นฐานและดัชนีราคา PCE ทั่วไปเมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% และ 2.8% ตามลำดับ
      
สำหรับความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัว หุ้นอินเทลลดลง 1.7% หลังจาก Financial Times รายงานว่า จีนห้ามใช้ชิปของบริษัทในเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ของรัฐบาล
      
หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ลดลง 3.4% หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติกล่าวว่าจะเพิ่มการตรวจสอบสายการบินให้เข้มงวดขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยหลายครั้ง
      
หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 1.3% หุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 0.8% และหุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.4% หลังจากสหภาพยุโรป (EU) เปิดการสอบสวนบริษัททั้ง 3 แห่งภายใต้กฎหมายควบคุมตลาดดิจิทัลของ EU (DMA)
      
หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้นกว่า 1% หลังจากที่บริษัทประกาศการปรับโครงสร้างการบริหารครั้วใหญ่ ซึ่งรวมถึงการลาออกของซีอีโอ เดฟ ​​คาลฮูน ในปีนี้ ขณะที่บริษัทพยายามแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยของเครื่องบิน
      
หุ้นของวอลต์ ดิสนีย์ เพิ่มขึ้น 3% หลังจากที่ Barclays ปรับคำแนะนำการลงทุนเป็น overweight
      
หุ้นไมครอนเทคโนโลยี ซึ่งชิปหน่วยความจำของบริษัทได้ใช้ในฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับAIเพิ่มขึ้นกว่า 6% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
      
นอกจากดัชนี PCE แล้วสัปดาห์นี้นักลงทุนยังจับตาการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค GDP ไตรมาส 4 ปี 2023

      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยแรงหนุนจากหุ้นพลังงานที่เพิ่มขึ้น 0.9% นักลงทุนขานรับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศหลัก
      
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ย้ำการคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่าเศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางสวิสสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการลดลดดอกเบี้ยลง 0.25%
      
นักลงทุนคาดหวังว่า เฟด ธนาคารกลางยุโรป(ECB) และ BoE ต่างจะลดดอกเบี้ย3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวมลด 0.75% ภายในปีนี้
      
ตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์นี้ (29 มี.ค.) และวันจันทร์หน้า (1 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 509.86 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด, +0.04%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,917.57 จุด ลดลง 13.35 จุด, -0.17%
      
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,151.60 จุด ลดลง 0.32 จุด, -0.004%
     
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,261.31 จุด เพิ่มขึ้น 55.37 จุด, +0.30%
     

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 86.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล