ดาวโจนส์ปิดร่วง 699 จุด ประธานเฟดเตือนผลกระทบจากภาษี เงินเฟ้อสูง

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดร่วงแรง ดาวโจน์ลดลง 699 จุด ด้านดัชนี Nasdaq -3.07% หลัง Nvidia นำกลุ่มเทคร่วงแรง ผลกระทบจากมาตรการสหรัฐฯ คุมส่งออกชิปของบริษัทไปจีน กระทบบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกระส่ำ ผสมความกังวงประธานเฟดเตือนภาษีทรัมป์กระทบเศรษฐกิจ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวขึ้น 1.8%
ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 16 เมษายน 2568 ปิดที่ 39,669.39 จุด ลดลง 699.57 จุด หรือ -1.73% จากคำเตือนที่ชัดเจนจาก Nvidia ถึงผลกระทบที่สูงจากมาตรการสหรัฐฯ ที่ควบคุมการส่งออกชิปของบริษัทไปยังจีน ซึ่งส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกระส่ำ และจากความกังวลของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนที่วิตกอยู่แล้วยิ่งกังวลมากขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,275.70 จุด ลดลง 120.93 จุด, -2.24%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,307.16 จุด ลดลง 516.01 จุด, -3.07%

ดัชนี S&P 500 ลดลงจากการร่วลงของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลงประมาณ 19% จากจุดสูงสุดก่อนปิดตลาด และร่วงลงสู่เขตตลาดหมี

หุ้น Nvidia ร่วงลง 6.9% หลังจากที่ยักษ์ใหญ่ด้านชิปประกาศว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายไตรมาสมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหน่วยประมวลผลกราฟิก H20 ไปยังจีนและประเทศอื่นๆ บริษัทระบุในเอกสารว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตถึงจะส่งชิปจากสหรัฐฯ ไปยังจีนได้

ตลาดหุ้นยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่ The New York Times รายงานว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังดำเนินการเพื่อปราบปราม DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของจีนที่ Nvidia จัดหาชิปให้

หุ้นผู้ผลิตชิปรายอื่นๆ ลดลงด้วยตาม Nvidia โดย VanEck Semiconductor ETF ลดลงกว่า 4% หุ้น AMD ลดลง 7.4% หุ้น Micron Technology ลดลง 2.4% และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นชิปโดยรวมลดลงก็คือรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ ASMLซึ่งหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ร่วงลง 7%

ตลาดหุ้นร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบการซื้อขายช่วงบ่าย จากการนายพาวเวลล์กล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Economic Club of Chicago ในชิคาโกว่า เฟดจะ “รอความชัดเจนมากกว่านี้” ก่อนที่จะพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ย และกล่าวว่าคาดว่าภาษีของทรัมป์จะทำให้เกิด “เงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ชะลอตัวลง”

นายพาวเวลล์ กล่าวว่า ภาษีของทรัมป์อาจเป็นความท้าทายสำหรับเฟด ในช่วงถาม-ตอบว่า นายพาวเวลล์กล่าวว่า ภาษีอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในระยะสั้น และ “มีแนวโน้มที่จะทำให้เราห่างไกลจากเป้าหมายมากขึ้น”

นายพาวเวลล์กล่าวในสุนทรพจน์ที่เตรียมไว้ว่า “เราอาจพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายซึ่งภารกิจเป้าหมายสองด้าน(dual-mandate goals )ของเรามีความตึงเครียด”
ความเห็นในช่วงบ่ายของประธานเฟดทำให้ขายหุ้นมากขึ้นอีกในหุ้นที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการร่วงลงอย่างรวดเร็วของหุ้นของ Nvidia และผู้ผลิตชิปรายอื่นๆอยู่แล้ว

แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า “พาวเวลล์ยืนยันสิ่งที่นักลงทุนกังวล นั่นคือ แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลจากภาษีศุลกากร”

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความกังวลของนักลงทุน พุ่งขึ้น 8.37% ปิดที่ 32.64

นอกจากนี้ ASML ผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ได้ออกมาเตือนว่าภาษีศุลกากรทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มของบริษัทเพิ่มมากขึ้น

บิล นอร์ธีย์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการลงทุนที่ U.S. Bank Wealth Management ในเมืองบิลลิงส์ รัฐมอนทานา กล่าวว่า ตลาดยังคงย่อยรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านภาษีศุลกากรซึ่งยังคงไม่ชัดเจน และด้วยเหตุนี้ ความไม่แน่นอนของนักลงทุน ธุรกิจ และผู้บริโภคจึงยังคงสูงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยบริษัทต่างๆ เริ่มชี้ถึงผลกระทบจากภาษีศุลกากรและผลที่ตามมาในแง่ลบจากความไม่แน่นอน

ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็ตอบสนองต่อมาตรการภาษีแล้ว ข้อมูลสำนักงานสำมะโนประชากรเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่ายอดขายปลีกเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นกว่า 1.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากผู้บริโภคซื้อของล่วงหน้าก่อนที่จะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม

กลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นเกือบ 1% โดยเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับขึ้นในวันนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ หลังจาก ASML ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกมาเตือนว่าภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กำลังทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มในปี 2025และ 2026

ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีร่วงมากที่สุด โดยลดลง 2% หุ้นของ ASML ร่วงลง 5.2%

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 507.09 จุด ลดลง 0.97 จุด, -0.19%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,275.60 จุด เพิ่มขึ้น 26.48 จุด, +0.32%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,329.97 จุด ลดลง 5.43 จุด, -0.07%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,311.02 จุด เพิ่มขึ้น 57.32 จุด, +0.27%

นอกจากนี้ Nvidia ยังกดดันหุ้นชิปทั่วโลก โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทระบุว่าต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับชิปที่ล้ำหน้าที่สุดที่วางจำหน่ายในจีน ขณะที่สหรัฐฯ พยายามรักษาตำแหน่งผู้นำในการแข่งขันด้าน AI

บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ทั้ง ASM International, BE Semiconductor, Soitec, Infineon และ STMicroelectronics ร่วงลง 1.3%- 3.2%

แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในยุโรปแย่ลงจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องจากภาษีศุลกากร โดยนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทต่างๆ จะรายงานกำไรลดลง 3% ในไตรมาสแรก ซึ่งลดลงมากกว่า 2.2% ที่คาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย LSEG

หุ้น Bunzl ของสหราชอาณาจักรเป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในดัชนี STOXX 600 โดยร่วงลง 25.6% หลังจากที่ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางธุรกิจปรับลดการคาดการณ์สำหรับปี 2025 และระงับโครงการซื้อหุ้นคืน

แม้การลดลงในหุ้นเทคโนโลยีโดยรวมส่งผลกระทบต่อดัชนี STOXX 600 แต่กลุ่มน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น 1.2% ตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นก็ช่วยไม่ให้ลดลงมาก

หุ้น Heineken พุ่งขึ้น 5% หลังจากที่บริษัทเบียร์รายใหญ่อันดับสองของโลกมียอดขายสูงกว่าประมาณการในไตรมาสแรกและคงการคาดการณ์รายปีไว้ได้

สำหรับการรายงานข้อทูลเศรษฐกิจก่อนการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ตัวเลขสุดท้ายของอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของยูโรโซนเดือนมีนาคมแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในวันพฤหัสบดี

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ 62.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.82% ปิดที่ 65.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–