HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้แนวรับ 1,120 จุด ส่วนแนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด หวังหุ้นกลุ่มพลังงานหนุนรับราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ติดตามรายงานกำไร Q1/68 กลุ่มแบงก์ TISO ประเดิมวันนี้ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงหนัก แรงขายหุ้นเทคโนโลยี หลังสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปของ Nvidia ไปตลาดจีน ประธานเฟดชี้ภาษีทรัมป์สูงเกินคาด อาจฉุดเศรษฐกิจเสี่ยงชะลอตัว หุ้นเด่นแนะสะสม CKP , KLINIQ
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,120 จุด แนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด คาดดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน โดยรอการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า และรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวในกลุ่มอาหารและอุปโภค เช่น CPF,TFG,FM,,BJC,HMPRO กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,GPSC จากต้นทุน Pool Gas มีแนวโน้มลดลง
สำหรับประเด็นที่ตั้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BB.Consensus) คาดทรงตัว -0.8% YoY แต่ +8.1% QoQ จากคาดการณ์ค่าใช้จ่ายและสำรอง ECL ปรับลดลง QoQ และวันนี้ TISCO จะรายงานกำไร Q1/68 (BB.Consensus) คาดที่ 1.6 พันล้านบาท -5.4% QoQ, -7.1% YoY
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ DJIA -1.73%, S&P500 -2.24%, Nasdaq -3.07% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -3.9%,สินค้าฟุ่มเฟือย -2.7% หลังสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปของ Nvidia ไปยังตลาดจีน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น AMD, Micron Tech. ปรับลดลง
ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาที่ชิคาโกชี้มาตรการเก็บภาษีศุลกากรที่สูงเกินกว่าคาด อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสูงและภาวะเศรษฐกิจอาจชะลอตัว ซึ่ง GDPNow คาด US GDP Q1/68 มีโอกาสหดตัว -2.2% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสร้างบ้านใหม่สหรัฐ มี.ค. และดัชนีภาคการผลิต เม.ย.ของเฟดฟิลาเดลเฟีย
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.19% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี -2% และ ASML -5.2% หลังสหรัฐจำกัดการส่งออกชิปของ Nvidia ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.2% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
หุ้นเด่นแนะนำ CKP (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.88 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งราคาหุ้นตอบรับไปแล้ว ขณะที่ 2Q68-3Q68 กำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนตามฤดูกาล และปริมาณน้ำโขงที่ผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้นจากปรากฎการณ์ La Nina ส่งผลให้ภาพรวมปี 68 กำไรอิงจาก consensus ของตลาดจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 1.57 พันล้านบาท (+17%YoY) โดยคาดหวังว่าจะไม่มีการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการไซยะบุรีเหนือนกับปีก่อน
หุ้น KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40.75 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 99 ล้านบาท (+26.69%YoY, +33.38%QoQ) เติบโตได้เด่นตามรายได้ที่อยู่ที่ 844 ลบ.(+31%YoY, +13% QoQ) หนุนจาก SSSG+13.1%YoY รวมถึงจำนวนสาขาที่สูงขึ้น 17 สาขา ทั้งนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ๆที่เปิดอย่าง aggressive ในช่วง 9M67(ราว14สาขา) มีน้ำหนักน้อยลงแล้ว รายได้สามารถโตทันต้นทุนค้าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ส่วนแนวโน้ม 1Q68 ประเมินดีต่อเนื่อง YoY QoQ
ทั้งนีในปี 68 คาด KLINIQ จะเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ KLINIQ อยู่ที่ระดับ 383 ล้านบาท ( +18.79%YoY) และ 455 ล้านบาท (+18.93%YoY) ตามลำดับ

