CGSI คงกรอบ SET Index 1,385 จุด +/- …จับตาส่งออก-นำเข้า สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com >> บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (CGSI) คงกรอบ SET Index 1,385 จุด+/-  สัปดาห์หน้าจับตาการแถลงตัวเลขส่งออก-นำเข้า แนะนำหุ้น SHR,CK 

Trend Spotter   คงกรอบ SET Index 1385 จุด +/- หลังหุ้นไทยปรับบวกขึ้นมาได้รับการประชุม FOMC ประเด็นที่น่าสนใจต่อการลงทุน คือ Dot Plot ที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปี 2024 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเมื่อเดือนธ.ค. และ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐขึ้นสู่ระดับ 2.1%, 2.0% และ 2.0% ในปี 2024 2025 2026 จากเดิมคาดการณ์ในเดือนธ.ค. ที่ระดับ 1.4%, 1.8% และ 1.9%

ปัจจัยในประเทศ จากนี้ติดตามการหารืองบประมาณปี 2024 ก่อนเข้าสู่สภาสูง วันที่ 9 เม.ย. และ การแถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้าของไทยในสัปดาห์หน้า

หุ้นแนะนำ

SHR :

เชื่อว่าน่าจะสิ้นสุดขาลงของราคาหุ้น SHR แล้วเมื่อประเมินจากความคืบหน้าในการปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมในทำเลสำคัญอย่างมัลดีฟส์และไทย  คาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นใน 2H24 หลัง EPS เติบโตสูงขึ้น yoy จาก RevPAR ที่เพิ่มขึ้น

เราเล็งเห็นพัฒนาการที่ดีในพื้นที่ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ของ SHR ใน 1Q24 โดยจะเห็นได้ชัดที่สุดจากรายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) ของโรงแรมในไทย, มัลดีฟส์และฟิจิที่เติบโตแข็งแกร่งถึง 31-45% yoy ช่วงเดือนม.ค.- ก.พ. 2024 เพราะอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

แม้ว่า SHR น่าจะมี RevPAR เติบโต 17% yoy ใน 1Q24 แต่เราประมาณการว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเป็น 136 ล้านบาท (+9% yoy, -113% yoy) ในไตรมาสเนื่องจากบริษัทจะมีดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น รวมทั้งน่าจะมีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมทุน (JV) เพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านบาทใน 1Q24

อย่างไรก็ดี การปรับลดดอกเบี้ยน่าจะส่งผลดีต่อ SHR เราจึงประมาณ การว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไทย, สหรัฐและ UK ทุก 25bp จะท าให้ก าไรสุทธิของ SHR เพิ่มขึ้น 15/10/9 ล้านบาทในปี FY25 ตามล าดับ
เราคาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นใน 2H24 หลัง EPS เติบโตสูงขึ้น yoy จาก RevPAR ที่เพิ่มขึ้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ” SHR ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 3.6 บาท

CK :
ปรับลดสมมติฐาน GPM ในปี FY24-26 เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง น่าจะมีมาร์จินต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ และ CK มียอด backlog รวม 1.29 แสนล้านบาทในสิ้นปี 2023 เทียบเท่ารายได้เกือบ 3 ปีซึ่งเรามองว่ายังเป็นระดับที่ปลอดภัย