“หุ้นโตเกียว-เอเชีย”เช้านี้พุ่ง รับทรัมป์ระงับใช้ภาษี เพิ่มเก็บจีนเป็น 125%

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นเอเชีย”เช้านี้พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ตลาดหุ้นญี่ปุ่น-ไต้หวันบวก 8-9% หลังทรัมป์ระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากหลายประเทศทั่วโลกเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นจีนที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกเป็น 125% ด้านหุ้นจีน +1.26% ฮ่องกง +3.14%

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรง โดย ดัชนี Nikkei พุ่งขึ้นกว่า 8% ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการจัดเก็บภาษีบางประเภทที่เรียกเก็บจากคู่ค้า รวมถึงญี่ปุ่น

หุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นในตลาด Prime Market โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นนำ คือกลุ่มธนาคาร กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก

เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 147.40-41 เยน เทียบกับ 147.70-80 เยนในนิวยอร์ก และ 145.53-54 เยนในโตเกียว เวลา 17.00 น. วันพุธ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่า 3.9% ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 4.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.4%

เวลา 9.57 น. เวลาในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 34,353.17 จุด เพิ่มขึ้น 2,639.14 จุด, +8.32%

ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากร จากหลายประเทศทั่วโลกเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นจีนที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก

ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่า “ผมอนุญาตให้ระงับชั่วคราว 90 วัน และลดภาษีศุลกากรแบบตอบโต้(Reciprocal Tariff )ลงอย่างมากเป็น 10% ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ทันที” และในโพสต์เดียวกันยังระบุว่า สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีกเป็น 125%

เฟรเดอริก นอยมันน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียของ HSBC Holdings Plc กล่าว นักลงทุนทั่วเอเชียและทั่วโลกต่างโล่งใจ การเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ ทำให้มีเวลามากขึ้นสำหรับการเจรจา ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเศรษฐกิจเอเชียที่เน้นการส่งออก เนื่องจากภาษีศุลกากรที่สูงลิ่วของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโต

นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ยกเลิกการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ หลังจากที่ทรัมป์ระงับการขึ้นภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วัน
นักลงทุนจับตาดูหุ้นจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแผ่นดินใหญ่เป็น 125% หลังจากจีนประกาศแผนที่จะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ สูงถึง 84%

ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ปะทุขึ้น ทำให้ค่าเงินหยวนในประเทศ(onshore yuan)ของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ

ค่าเงินหยวนออนชอร์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 7.3480 เมื่อเวลา 10.11 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ขณะเดียวกัน ค่าเงินหยวนออฟชอร์ลดลง 0.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 7.3629

สกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียผันผวนอย่างรุนแรงในวันพฤหัสบดี เงินวอนเกาหลีใต้อ่อนค่าลง 0.72% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แตะที่ 1,455.82 ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.18% แตะที่ 0.6141 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีพากันปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย SK Hynix เพิ่มขึ้น11.27% หุ้น LG Display เพิ่มขึ้น 10.8% และ หุ้น Samsung Electronics เพิ่มขึ้น 4.91% นอกจากนี้บริษัทอื่นๆ ก็ปรับขึ้นเช่นกัน หุ้นSamsung Heavy เพิ่มขึ้น 6.21% หุ้น Hyundai Motor เพิ่มขึ้น 6.29% และหุ้น Hyundai-Rotem เพิ่มขึ้น 9.36%

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,226.97 จุด เพิ่มขึ้น 40.16 จุด, +1.26%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 20,899.98 จุด เพิ่มขึ้น 635.49 จุด, +3.14%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,417.43 จุด เพิ่มขึ้น 123.73 จุด, +5.39%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 18,993.44 จุด เพิ่มขึ้น 1,601.68 จุด, +9.21%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 0.54 ดอลลาร์หรือ 0.87% ซื้อขายที่ 61.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 0.69 ดอลลาร์หรือ 1.05% ซื้อขายที่ 64.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล