ดาวโจนส์ปิดลบ 190 จุดจับตาเฟดประชุมสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 190 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กังวลเงินเฟ้อ จับตาเฟดประชุมสัปดาห์หน้า อีกทั้งสัญญา Options- futures สามแบบหมดอายุพร้อมภายในวันเดียว ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ลดลง 22 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ นักลงทุนชะลอความเสี่ยง จากความกังวลเพิ่มขึ้นเฟดอาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 15มีนาคม 2567 ที่ 38,714.77 จุด ลดลง 190.89 จุด หรือ -0.49% จากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีด้วยแรงกดดันความกังวลเงินเฟ้อ ขณะที่จับตาการประชุมของธนาคารกลางสวหรัฐ (เฟด)ในสัปดาห์หน้า อีกทั้งสัญญา Options และ futures สามแบบหมดอายุพร้อมภายในวันเดียว

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,117.09 จุด ลดลง 33.39 จุด, -0.65%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,973.17 จุด ลดลง 155.36 จุด, -0.96%

ในรอบสัปดาห์นี้ ทั้ง 3 ดัชนีตัวปรับตัวลงเล็กน้อย โดยดาวโจนส์ลดลง 0.02%S&P500 ลดลง 0.1% และ Nasdaq ลดลง 0.7%

หุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่ลดลง โดยหุ้นอเมซอน และหุ้นไมโครซอฟต์ต่างลดลงมกว่า 2% หุ้นแอปเปิลและหุ้นอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิลก็ปรับลดลงเช่นกัน หุ้น Nvidiaที่ผันผวนในสัปดาห์นี้จากการที่นักลงทุนกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นลดลงเล็กน้อย แต่บวกทั้งสัปดาห์บวกประมาณ 0.4%

นักลงทุนยังคงระมัดระวังอย่างมากหลังจากมีข้อมูลจำนวนมากจากช่วงต้นสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิตซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของผู้ค้าส่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นประมาณ 22 จุดในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่งเกินไปสำหรับเฟดที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือไม่ โดยเฟดจะเริ่มการประชุมในวันที่ 19 มีนาคม

เทียรี วิซแมน นักกลยุทธศาสตร์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกของ Macquarie กล่าว ว่า การรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดอาจทำให้เกิดคำถามว่าเฟดรู้สึกว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากพอที่จะเริ่มลดระดับลงในปลายปีนี้ และอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะยาวเพิ่มขึ้นหรือไม่

“ประเด็นก็คือ ไม่ใช่แค่ปี 2024 และ 2025 [แนวโน้มหรือ dot plot] เท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาอื่นๆ ที่เฟดกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรวมถึงตลาดมีฟองสบู่มากเกินไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณที่คิดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวควรจะสูงขึ้น

FedWatch Tool จาก CME Group บ่งชี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 99% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอความเสี่ยงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าการปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นโทรคมนาคมจะช่วยหนุนการลดลงได้บางส่วน

หุ้น Vodafone พุ่งขึ้น 5.7% ส่งผลให้กลุ่มโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น 1.5%

อย่างไรก็ตามดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่แปดติดต่อกัน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการผลการดำเนินงานที่สดใส และความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป

นักลงทุนคลายความกังวลหลังอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนชะลอตัวและผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปบางรายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

แอนดรูว์ เคนนิ่งแฮม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปที่ Capital Economics กล่าวว่า จากอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมายในช่วงครึ่งหลังของปี ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจาก 4% เหลือ 3% ภายในสิ้นปีและเหลือประมาณ 2.25% ภายในกลางปี 2025

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 2.0%

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 504.80 จุด ลดลง 1.60 จุด, -0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,727.42 จุด ลดลง 15.73 จุด, -0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,164.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.93 จุด, +0.04%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,936.65 จุด ลดลง 5.39 จุด, -0.03%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 81.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 85.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล