บล.กสิกรฯคาดหุ้นทดสอบ 1,400 จุด จับตาเฟดชี้นำสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,375 และ 1,365 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ลุ้นการประชุมธนาคารกลางหลายประเทศ และฟันด์โฟลว์ ส่วนค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.30-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯหลังจากพลิกอ่อนค่า  

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (18-22 มี.ค.2567) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,375 และ 1,365 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุมเฟด (19-20 มี.ค.) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ(เบื้องต้น) เดือนมี.ค.รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนมี.ค.ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนมี.ค. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีน อาทิยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

ตลาดหุ้นปรับตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคจากความกังวลว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

หุ้นย่อตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางสัญญาณระมัดระวังของนักลงทุนระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีหุ้นกลับมาปรับตัวขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการกลับมาซื้อสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์และหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น หุ้นย่อตัวลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทำให้ตลาดกังวลว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

ในวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,386.04 จุด ลดลงเล็กน้อย 0.03% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 42,227.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.16% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.10% มาปิดที่ระดับ 418.76 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป(18-22 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.30-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาททยอยอ่อนค่าลงสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (+3.2% YoY ในเดือนก.พ. สูงกว่าตลาดคาดที่ 3.1% YoY) ดัชนีราคาผู้ผลิต (+1.6% YoY ในเดือนก.พ. สูงกว่าตลาดคาดที่ 1.1% YoY) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (ลดลง 1,000 ราย มาที่ 209,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 218,000 ราย)

ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ลดทอนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุม FOMC ใกล้ๆ นี้ลง

ในวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ) เทียบกับระดับ 35.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 มี.ค. 67)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 11-15 มี.ค. 2567 นั้นขายสุทธิหุ้นไทย 4.9 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 11,670 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 11,170 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 500 ล้านบาท)