IVL ปักเป้าหมายปี 2562 อิบิทดาถึง 1,750 ล้านดอลลาร์ ไม่สนการค้าโลกผันผวน ผลของการการกระจายการลงทุนทั่วโลก 30 ประเทศ สร้างตลาดเคมีภัณฑ์ขนาดใหญ่ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ตั้งงบลงทุน 1,100 ล้านดอลลาร์ ไม่รวมซื้อกิจการใหม่ หนุนปี 2563 ทะยานไปข้างหน้า
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา(อิบิทดา)ที่ 1,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 74% จากปี 2560 กำไรที่ดีขึ้นมาจากผลของการซื้อกิจการหลายแห่งและคาดว่าภาพรวมของเศรษฐกิจยังส่งผลบวกต่อเนื่องถึงความต้องการใช้เคมีภัณฑ์
ส่วนในปี 2563 โครงการลงทุน คอร์ปัส คริสตี ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มการผลิต ซึ่งจะเป็นโรงงาน PTA-PET ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“IVL มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลก และให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของกำไรและปริมาณการผลิตในปี 2561 และปี 2562 เนื่องจากเอกลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจ กระจายอยู่ใน 30 ประเทศและสินทรัพย์ครอบคลุมทั่วโลก พร้อมห่วงโซ่คุณค่า รองรับตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีเสถียรภาพทางธุรกิจ มีภูมิคุ้มกันที่ดี แม้อยู่ในภาวะการค้าระหว่างประเทศทีมีความผันผวนก็ตาม ”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า IVL ยังคงเดินหน้าเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทเพิ่งซื้อกิจการในประเทศบราซิลและอียิปต์ ทำให้มีกำลังการผลิต PET เพิ่มขึ้นจำนวน 1.1 ล้านตัน รวมถึงการซื้อกิจการในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศโปรตุเกส เพิ่มกำลังการผลิต PTA จำนวน 1.1 ล้านตัน และเพิ่มความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA จากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Kordarna ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และบริษัท Avgol ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย
นาย ดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Feedstock และ PET บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทตั้งงบลงทุนจำนวน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการลงทุนโครงการร่วมทุนในสหรัฐ คอร์ปัส คริสตี ทั้งนี้ยังไม่รวมงบในการซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนที่จะเกิดขึ้นใหม่ บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการซื้อกิจการตลอดเวลา เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“IVL วาง 3 กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโต คือ1.การขยายภูมิภาค 2.การขยายผลิตภัณฑ์และ 3. การลงทุนครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในสหรัฐ สำหรับการลงทุนในกิจการต่างๆ เชื่อว่ายังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ตามความต้องการใช้ของแต่ละประเทศที่เราเข้าไปลงทุน และภาพรวมเศรษฐกิจโลกแม้ว่าจะชะลอตัวลงบ้าง แต่คาดว่าจีนยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ ”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ PET บริษัทมีส่วนแบ่งการครองตลาดถึง 25% จะลำบากในการขยายการลงทุน เนื่องจากอาจจะติดข้อจำกัดในเรื่องการผูกขาด
ส่วนการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทคาดว่าจะมีอิบิทดาที่ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับอิบิทดาประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา(ต.ค.2560-ก.ย.2561) ส่วนในไตรมาสที่ 4 ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีอิบิทดาเท่าไร แต่น่าจะดีขึ้น เนื่องจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แม้มาร์จิ้นจะลดลงก็ตาม