GULF เตรียมขายหุ้นกู้ 2 หมื่นลบ. ทริสคงเรทติ้ง A เบอร์ 1 ผู้นำไฟฟ้า

HoonSmart.com>>”กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” (GULF) เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ 5 ชุด 27-29 มี.ค. 67 ใช้ขยายธุรกิจ-ชำระหนี้ ทริสจฯคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี ที่ระดับ ” A” สะท้อนถึงสถานะหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของไทย ลงทุนกระจายตัวที่ดี กระแสเงินสดสูง ผลงานน่าพอใจ EBITDA เพิ่มขึ้น 23% อยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาทในปี 66 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITD ควบคุมดีอยู่ที่ระดับ 6. 7 เท่า สิ้นปี 66 มีหนี้เงินกู้รวม 2.83 แสนล้านบาท

บริษัททริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ที่ระดับ ” A+” และ คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบัน ที่ระดับ “A” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่”

ทริสยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท และมีอายุไม่เกิน 10 ปี ที่ระดับ “A” ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ขยายธุรกิจและ/หรือ ใช้ชำระหนี้

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ตลอดจนการลงทุนที่มีการกระจายตัวที่ดี ผลงานในการพัฒนาและดำเนินงานโรงไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้ในระดับสูงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. อันดับเครดิต ” AAA/Stable”)
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวก็ลดทอนลงจากความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทและภาระหนี้สินที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ในช่วงขยายการลงทุน

บริษัทรายงานผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในช่วงที่ผ่านมา โดยมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ( EBITDA) เพิ่มขึ้น 23.23% มาอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาทในปี 2566 จากปัจจัยสนับสนุน คือ การเปิดดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ  ในขณะที่ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA นั้นก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมที่ดี โดยอยู่ที่ระดับ 6. 7 เท่าในปี 2566

อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทซึ่งต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นนั้น สะท้อนถึงลักษณะการด้อยสิทธิของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน ( Priority Debt) ทั้งนี้ ณ เดือน ธันวาคม 256 6 หนี้เงินกู้รวมของบริษัท ซึ่งไม่รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า มีจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 2.83 แสนล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน จำนวน 1.44 แสนล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหนี้เงินกู้ที่มีหลักประกันของบริษัทและหนี้เงินกู้ทั้งหมดของบริษัทย่อย ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ระดับ 51%  ทำให้เจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทมีความด้อยสิทธิ์กว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากลำดับสิทธิ์เรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต”คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสฯว่า โรงไฟฟ้าของบริษัทที่เปิดดำเนินงานแล้วจะผลิตไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและสร้างกระแสเงินสดได้ตามแผน ในขณะที่โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินงานได้ตามกำหนดการ อีกทั้งกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทจะไม่ทำให้สถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตนั้นมีจำกัดในระยะสั้นเมื่อพิจารณาจากแผนการขยายการลงทุนจำนวนมาก แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถลดภาระหนี้สินลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตก็อาจได้รับการปรับลดลง หากสถานะความเสี่ยงด้านการเงินอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการลงทุนด้วยการก่อหนี้จำนวนมาก การมีต้นทุนในการก่อสร้างที่บานปลายอย่างมีสาระสำคัญ หรือความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ถดถอยลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ระดับเกินกว่า 8 เท่าเป็นอย่างมากและต่อเนื่องก็อาจส่งผลกดดันต่ออันดับเครดิตได้เช่นกัน

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ยื่นร่างแบบแสดงรายการต่อก.ล.ต.คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จำนวน 5 ชุด

1. ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 รอประกาศ
2. ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572
3. ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2574
4. ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2577
5. ชุดที่ 5 อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 อัตราดอกเบี้ย [3.35-3.45%] ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 1 -4 เสนอขายให้แก่ ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ส่วนชุดที่ 5 เสนอขายให้แก่ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (ยกเว้นสหกรณ์)

เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 27- 29 มี.ค. 2567 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้   เสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ได้แก่ ธนาคาร กรุงเทพ,ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารกสิกรไทย,บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ,บริษัท ธนาคารยูโอบี

ส่วนการเสนอขายขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์   และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

ด้านราคาหุ้น GULF ปิดที่ 45.25 บาท บวก 0.50 บาทหรือ +1.12% มูลค่าซื้อขายรวม 515.34 ล้านบาท