ปิโตรฯ เด่นรับศก.จีนฟื้น PRM ทุ่ม1.4 พันลบ.ซื้อหุ้นคืน

HoonSmart.com>>หุ้นบวก 4.88 จุด แรงซื้อปิโตรเคมี-สินค้าโภคภัณฑ์ ราคายางพุ่งทะลุ 90 บาท/กก. สูงสุดในรอบ 7 ปี ได้ประโยชน์เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว เก็บหุ้นแบงก์ถือรอปันผล  ด้านต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้น 1,068 ล้านบาท สวนทางเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นเป้าปีนี้โตแค่ 2.8% เฟดลดดอกเบี้ยมิ.ย.นี้ บจ.เดินหน้าซื้อหุ้นคืน บอร์ด “พริมา มารีน” (PRM) เพิ่มวงเงินจาก 800 ล้านบาท เป็น 1,400 ล้านบาท สถาบันซื้อบิ๊กล็อต “เอกชัยการแพทย์ “(EKH) มากกว่า 100 ล้านบาท

ตลาดหุ้นวันที่ 13 มี.ค.2567 ดัชนีพยายามตีบวก 4.88 จุด ปิดที่ระดับ 1,384.51 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,297.40 ล้านบาท  ฝีมือต่างชาติซื้อสุทธิ 1,068 ล้านบาท ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคและยุโรปมีทั้งบวกและลบ  โดยหุ้นเด่นมาจากสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ปิโตรเคมี โรงกลั่น รวมถึงธนาคารที่แจกปันผลดี

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า  หุ้นปรับตัวขึ้นได้ จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และสินค้าโภคภัณฑ์ ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หลังจากส่งออกเดือนม.ค.-ก.พ.ออกมาเป็นบวก และเงินเฟ้อบวกได้ในรอบ 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อดัชนีฯวิ่งขึ้นไปใกล้ระดับ 1,390-1,400 จุด จะเจอแรงขายทำกำไร เพราะยังต้องติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)  และยอดค้าปลีกของสหรัฐด้วย ท่ามกลางเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ตลาดคงจะเคลื่อนไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,377 จุด แนวต้าน 1,390 จุด

ด้านนายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น IVL และ PTTGC ขึ้นนำกลุ่มปิโตรเคมี รับผลจากสเปรดโอเลฟินส์ฟื้นตัวขึ้น ทำให้ผลดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะ Turnaround จากไตรมาส 4/66 ที่งบฯออกมาไม่ดี อีกทั้งราคาหุ้นก็อยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ดี มองเป็นการขึ้นแค่ช่วงสั้น เนื่องจากปีนี้ Supply เข้ามามาก จึงแนะนำ”ถือ”ทั้ง IVL ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท และ PTTGC ราคาเป้าหมาย 38 บาท

ส่วนราคายางพารา น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) พุ่งทะลุ 90 บาทไปแล้ว เช่น ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 90.09 บาท/กก. สูงที่สุดในรอบ 85 เดือน (7 ปี 1 เดือน)

ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจอ่อนแอ โดยนายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับเดียวกันกับปี 2566 การค้าโลกน่าจะกลับมาขยายตัวได้ดี แนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกจะค่อยๆ ปรับลดลง ตลาดการเงินมองว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. 2567 ขณะที่จีนยังคงเผชิญกับปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่คลี่คลาย

สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มโตต่ำกว่าคาด จึงปรับลดประมาณการลงมาอยู่ที่ 2.8% จาก 3.1% เนื่องจากโมเมนตัมของอุปสงค์ยังแผ่วลง ภาคการผลิตที่ยังหดตัวต่อเนื่อง และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สะท้อนได้จากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ยังหดตัวหลายเดือนติดต่อกัน แม้ได้แรงหนุนจากการกลับมาเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐบาลและการส่งออกขยายตัว 2% นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสโตถึง 36 ล้านคน คาดธปท. มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยประมาณ 2 ครั้งในปี 2567 ส่วนเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 0.8%

บริษัทจดทะเบียน(บจ.) ยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นคืน ล่าสุด 13 มี.ค.2567 บริษัท พริมา มารีน ( PRM) ซื้อจำนวน 2.22 ล้านหุ้น ช่วงราคา 6.95-7 บาท  เป็นเงิน 15.47 ล้านบาท ถึงปัจจุบันซื้อได้ทั้งหมด 88.47 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.54% ใช้เงินทั้งสิ้น  565.95 ล้านบาท  ในวันเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ เพิ่งมีมติอนุมัติแก้ไขวงเงินโครงการซื้อหุ้นคืน จากเดิมไม่เกิน 800 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 1,400 ล้านบาทเพิ่มจำนวนหุ้นจาก 100 ล้านหุ้น เป็นไม่เกิน 175 ล้านหุ้น คิดเป็น 7% มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2567 หลังจากพิจารณาราคาหุ้นที่ไม่สะท้อนกับผลการดําเนินงาน ซึ่งแสดงถึงราคาซื้อขายที่ตํ่ากว่าปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับบริษัทยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินส่วนเกิน หลังจากที่บริษัทได้กันกําไรสะสมไว้เป็นเงินสํารองเท่ากับจํานวนที่ซื้อหุ้นคืนแล้ว

ด้านบริษัท เอกชัยการแพทย์ (EKH) แจ้งว่า การซื้อขายบิ๊กล็อตหุ้น EKH และ EKH-W 1  มูลค่ารวมมากกว่า 100 ล้านบาท เกิดจากนักลงทุนสถาบันซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่