บล.กสิกรฯมองหุ้นทะลุ 1,400 จุด ฟันด์โฟลว์ชี้นำสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,375 และ 1,355 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยคาดกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.15-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเงินบาทแข็งสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (11-15 มี.ค.2567) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,375 และ 1,355 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ของยูโรโซนและอังกฤษ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น ตลอดจนยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนก.พ. ของจีน

สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นไทยย่อตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังจบช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ประกอบกับยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยเริ่มพลิกมาขยับขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อคืนหุ้นเข้ามาหนุน หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 7 วันทำการ ก่อนจะดีดตัวขึ้นแรงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจใกล้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม แม้จะไม่ได้ให้กรอบเวลาที่ชัดเจนก็ตาม

สำหรับสัปดาห์นี้ หุ้นดีดตัวขึ้นช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค รับสัญญาณเฟดอาจใกล้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยเฉพาะช่วงท้ายสัปดาห์ นำโดย หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน

ในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,386.42 จุด เพิ่มขึ้น 1.39% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 40,153.90 ล้านบาท ลดลง 31.43% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.75% มาปิดที่ระดับ 410.15 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (11-15 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.15-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทแข็งค่าขึ้นตลอดสัปดาห์สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด หนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเฉพาะเมื่อเฟดมั่นใจว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอลงกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมาย

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ยังมีปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน

เงินบาทมีแรงหนุนเพิ่มเติมตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างสัปดาห์

ในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.43 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (1 มี.ค. 67)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 4-8 มี.ค. 2567 นั้นขายสุทธิหุ้นไทย 2,602 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทยเล็กน้อยที่ 198 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 203 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 5 ล้านบาท)