HoonSmart.com>>”อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย”(RBF) ยืนยันยอดขายในตลาดอินโดนีเซียยังเติบโตดี ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ตอนนี้สินค้าจากอินโดนีเซียจะส่งมาไทย โดยปี 68 คาดว่าจะส่งสินค้ามาไทยเพิ่มขึ้นกว่าปี 67 ที่ส่งมาไทย 40 ล้านบาท ส่วนที่ต้องระวังตลาดอินโดฯเป็นเรื่องเครดิตเทอม ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่มีหนี้เสีย พร้อมมุ่งขยายฐานตลาดต่างประเทศหวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 30% ภายใน 5 ปี พร้อมวางเป้ารายได้ปี 68 โต 10-15%
นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) เปิดเผยว่า บริษัทโฟกัสการเติบโตตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศในสัดส่วน 30% คาดว่าจะทำได้ไม่เกิน 3-5 ปี จากตอนนี้ที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 22-23% ซึ่งระยะยาวก็คาดสัดส่วนจากต่างประเทศจะมากกว่าในประเทศ เพียงแต่ตอนนี้ฐานในประเทศใหญ่มาก โดย 80% จะเป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ส่วนปี 2568 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% ซึ่งมาจากยอดขายของลูกค้าเดิม และการขยายตลาด โดยตลาดที่เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปีนี้จะถึงจุดคุ้มทุนได้ และคาดว่าจะเติบโต 10-20% ต่อปี จากที่ปัจจุบันธุรกิจทั้งสองประเทศนี้สามารถยืนได้แล้ว
ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้จะขับเคลื่อนโดยการขยายตลาด คำสั่งซื้อใหม่ และเติบโตต่อเนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เป็นการขยายฐานลูกค้า, ปรับปรุงกำไรขั้นต้นให้ดีขึ้นในแต่ละหมวดหมู่ และการย้ายฐานการผลิตไปยังอินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย, ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เพื่อปรับปรุงผลกำไรและประสิทธิภาพการขาย ต้นทุน ด้านต้นทุนขนส่งลดลงจากการย้ายฐานการผลิต รวมทั้งในส่วนกำไรสุทธิ เล็งรับผลจาก BOI ให้ประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนโซลาร์รูฟท็อป และมีแผนสร้างโรงงานใหม่ พร้อมขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI รวมถึงการสูญเสียในต่างประเทศโยกไปเวียดนาม และอินโดนีเซีย
“เวียดนาม อินโดนีเซีย ปีนี้คาดการณ์เติบโตได้ดีระดับ 2 หลัก 10 ปลาย ๆ ไปถึงกว่า 20% ได้ รวมทั้งอินเดียก็คาดการณ์โตขึ้นเหมือนกัน ฉะนั้นตลาดต่างประเทศของเราเติบโตแน่นอน ตลาดรัสเซียจะเริ่มมาละ และตลาดปากีสถานก็จะมาในปีนี้ ตลาดในประเทศอื่น ๆ กลุ่มย่อยก็มีไปเกาหลี, ญี่ปุ่น แล้ว การที่เราขยายไปต่างประเทศ ทำให้เราขยายตลาดได้มากขึ้น เช่น อินเดีย เมื่อโรงงานเราพร้อม ซึ่งก็คาดการณ์จะเป็นครึ่งปีหลัง ทำให้เราสามารถขยายตลาดในกลุ่มที่ต้องใช้แป้งเป็นฐานรองรับวัตถุดิบได้เร็วขึ้น ปัจจุบัน RBF ที่ส่งออกไปอินเดียให้ JV ของเรา เรายังค่อนข้างจำกัดการขายพอสมควร เพราะกลุ่มที่ต้องการใช้แป้งเป็นหลักคือแป้งสาลี่ซื้อที่ไทยต้นทุนสูงกว่าซื้อที่อินเดีย 30% โดยประมาณ ณ วันนี้เราจึงแผนลูกค้ารายใหญ่ที่สำคัญไว้ก่อน แต่เมื่อเราพร้อมก็จะขยายได้เต็มที่ เราก็จะมีต้นทุนแป้งสาลี่ถูกลง 30% เมื่อเราผลิตที่นู้นก็จะทำให้การขยายตลาดทำได้ดีขึ้น ดังนั้นเคสของอินเดียก็จะเข้ามาเสริมในส่วนของการย้ายฐานการผลิต…ส่วนอินโดนีเซียปีนี้ก็มีการขยายการผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศ รวมทั้งส่งกลับมาประเทศไทยด้วย ส่วนเวียดนามก็เพื่อขายในเวียดนามเอง และส่งไปฟิลิปปินส์ ทำให้เวียดนามก็เติบโตขึ้น”
นายสุรนาถ กล่าวต่อว่า ยอดขายในจีนตอนนี้เป็นส่วนของ Food Coating ซึ่งจะเติบโตขึ้น โดยมีแผนจะเติบโตอีก แต่ตลาดจีนเป็นตลาดที่เข้ายากกว่าตลาดอื่น แต่ระยะยาวยังไงก็จะเติบโตได้ ส่วนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ณ วันนี้ยอดขายยังไม่ได้ตก ตอนนี้ที่ส่งสินค้าออกจากอินโดฯ คือส่งสินค้ากลับมาประเทศไทย ปีที่แล้วส่งมาไทย 40 ล้านบาท ปีนี้จะเพิ่มขึ้น
“ตลาดอินโดฯที่ต้องระวังเป็นพวกเครดิตเทอมที่เราปล่อย ซึ่งอินโดฯกับเวียดนามเราควบคุมเครดิตเทอมได้ดี เราปล่อยไม่เกิน 30 วัน ถ้าไปถึง 60 วัน เราก็บล็อกละ ซึ่งต้องบอกว่า ณ วันนี้ยังไม่มีหนี้เสีย จริง ๆ เครดิตในไทยเรายังปล่อยเยอะกว่าต่างประเทศอีก เพราะในไทยเรามอนิเตอร์ดูสถานะการเงินได้ แต่ในต่างประเทศไม่มีเราก็ค่อนข้างจำกัด”
นอกจากนี้ กล่าวถึงงบลงทุนปีนี้ว่า “ณ ตอนนี้จะมีการลงทุนแค่โรงงาน เฟส A กับ B ที่เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว น่าจะเสร็จภายในครึ่งแรกปีนี้ อาจมีเพิ่มเติมแต่อยู่ในช่วงศึกษาอยู่ ณ ตอนนี้ก็มีลงทุนแค่นี้…ออ มีลงทุนเวียดนาม และอินเดีย อีกประมาณ 15-20 ล้านบาท ไม่เยอะ”