HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดาวโจนส์ลดลง 97 จุด นักลงทุนชะลอการลงทุน รอการรายงานข้อมูลการจ้างงาน พร้อมถ้อยแถลง “เจอโรม พาเวลล์” ประธานเฟดและตลาดยังขาดปัจจัยใหม่หนุน “ราคาน้ำมันดิบ WTI”ลดลง 1.23 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ 38,989.83 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือ -0.25% นักลงทุนชะลอการลงทุนขณะที่รอการรายงานข้อมูลการจ้างงานและถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,130.95 จุด ลดลง 6.13 จุด, -0.12%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,207.51 จุด ลดลง 67.43 จุด, -0.41%
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ถอยลงจากระดับ all-time highs ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นจากกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์(AI) อย่างไรก็ตามการปรับลดถูกชดเชยจากการเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ในหุ้น Nvidia
หุ้นซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์(Super Micro Computer )ทะยานขึ้น 18% หลังจากที่ S&P Dow Jones Indices ประกาศว่า จะนำบริษัทเข้า S&P 500 ในปลายเดือนนี้
หุ้นแอปเปิล ลดลง 2.5% หลังถูกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1,800 ล้านยูโร (1,950 ล้านดอลลาร์) จากการผูกขาด หุ้นเทสลา ลดลงกว่า 7% หลังจากประกาศลดราคารถอีกครั้งเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
ในกลุ่มอื่นๆ หุ้นฟอร์ดบวกกว่า 2% จากยอดขายที่แข็งแกร่ง หุ้นเมซีส์(Macy’s) พุ่งกว่า 13% หลัง Arkhouse Management และ Brigade Capital Management ปรับเพิ่มข้อเสนอซื้อ
หุ้น JetBlue เพิ่มขึ้นกว่า 4% หุ้น Spirit Airlines ร่วงกว่า 10% หลังทั้งสองบริษัทประกาศล้มแผนการควบกิจการ หลังแพ้คดีต่อต้านการผูกขาดของรัฐบาลกลาง
แซม สโตวัล หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า นักลงทุนกำลังชั่งใจว่าควรทำกำไรออกบางส่วน ณ จุดนี้หรือไปต่อ แต่จากภาวะตลาดที่อ่อนตัวลงเล็กน้อยนักลงทุนก็น่าจะไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนมองหาสัญญานเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของอัตราดอกเบี้ยจากประธานเฟด ที่มีกำหนดแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการธนาคารประจะวุฒิสภาในวันที่ 6-7 มีนาคม
ทั้งนี้คาดการณ์กันว่า นายพาวเวลล์ จะตอกย้ำว่าไม่มีการเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานคลายความร้อนแรงก็จะทำให้คาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ADP กำหนดรายงานข้อมูลการสำรวจการจ้างงาน และข้อมูลตำแหน่งงานว่างของเดือนมกราคมในวันพุธ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และจะมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานภาคการผลิตและนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบที่ระดับต่ำกว่า all-time highs เนื่องจากนักลงทุนประเมินการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในการซื้อขายล่าสุด และระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้
ดัชนี STOXX 600 ลดลง 0.03% หลังทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในช่วงต้นการซื้อขายและเข้าใกล้ระดับ 500
ดัชนีเทคโนโลยีของยุโรปพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษ จากกระแส AI
แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มวัฏจักร เช่น กลุ่มเหมืองแร่ง กลุ่มการเดินทางและสันทนาการ และกลุ่มค้าปลีกจำกัดการปรับขึ้นของตลาดโดยรวม
นักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญๆ มากมายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมการแถลงต่อรัฐสภาของประธานธนาคารกลางสหรัฐ การตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางยุโรป และข้อมูลตลาดแรงงานสำคัญเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ
ECB ซึ่งมีกำหนดประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% แต่ยังมีแนวโน้มที่จะปรับลดแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อลงด้วยเพื่อเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในที่สุด
นักวิเคราะห์จาก BCA Research กล่าวว่า ECB มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสองครั้งถัดไปคือวันที่ 7 มีนาคมและ 11 เมษายน หากแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่เหมือนเดิม การประชุมในวันที่ 6 มิถุนายนจึงเป็นตัวเลือกที่มีแนวโน้มมากที่สุดสำหรับการเริ่มต้นวงจรการผ่อนคลาย
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 497.41 จุด ลดลง 0.17 จุด, -0.03%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,640.33 จุด ลดลง 42.17 จุด, -0.55%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,956.41 จุด เพิ่มขึ้น 22.24 จุด, +0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,716.17 จุด ลดลง 18.90 จุด, -0.11%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 78.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 75 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 82.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล